"ผิวแพ้ง่าย" แพ้เครื่องสำอางค์ ทำไงดี

"ผิวแพ้ง่าย" คำนี้เราอาจจะได้ยินบ่อย ๆ  ในคนที่ใช้ครีมอะไรไม่ค่อยได้ สิวขึ้นง่าย หรือมีอาการลอก แดง แสบผิวหนังบริเวณผิวหน้าบ่อย ๆ วันนี้หมอเลยมีข้อมูลเล็กน้อยเกี่ยวกับโรคนี้มาให้ลองดูกันครับ ว่าตรงกับเราหรือเปล่า และใครที่มีอาการเหล่านี้ ถ้ามีความเข้าใจในโรคของตนเองดีขึ้น ก็จะสามารถดูแลรักษาผิวหน้าของเราได้ดียิ่งขึ้นด้วยครับ

ผิวแพ้ง่าย VS. ผิวแพ้ยาก

หลาย ๆ คนอาจเคยเจอคนที่แพ้ยากมาก ผิวหนัง ผิวหน้าดีไปหมดทั้งที่แทบจะไม่ค่อยดูแลเลย อยู่กลางแดดผิวก็ไม่แดง ทำยังไงสิวก็ไม่ขึ้น (ขนาดเราดูแลแทบตาย สิวยังขึ้นไม่หยุดไม่หย่อน) ซึ่งในคนกลุ่มแพ้ยากนี้ (Resistant Skin) ต้องนับว่าเกิดมามีบุญนัก เพราะมีผิวหนังชั้นนอก (SC) ที่แข็งแรงมาก จะใช้เครื่องสำอางค์ Skin care อะไรก็ไม่ต้องห่วงว่าจะมีปัญหา แดง แสบ ลอก สิวขึ้น ใด ๆ ท้งนั้น (น่าอิจฉาจริง ๆ )

แต่ก็ใช่ว่าคนผิวแพ้ยากจะมีแต่เรื่องดีนะครับ ข้อเสียก็มีเหมือนกัน เพราะในคนที่ผิวแข็งแรงมาก จะไม่สามารถแยกผลของการใช้ครีม หรือ skin care ได้ แถมยังมีผิวหนังที่แข็งแรง ทะลุทะลวงยาก ต่อให้ทาครีมกระปุกละหมื่น อาจจะได้เข้าไปไม่กี่สิบบาท ไม่เห็นผลเลยก็ได้ครับ 

สำหรับกลุ่มผิวแพ้ง่าย มักจะพบใน หญิงสาว วัยรุ่น และน้อยลงในอายุที่มากขึ้น ซึ่งก็มีเครื่องสำอางค์ ครีมบำรุงผิวมากมายที่ผลิตออกมาเพื่อสาว ๆ กลุ่มนี้ ซึ่งใครที่รักษาหาย หรือเจอครีมที่ใช้ได้ก็โชคดีไป แต่หลาย ๆ คนก็ยังไม่เจอครีมที่ใช้ได้เลย

กลุ่มแพ้เครื่องสำอางค์ (Cosmetic Intolerance Syndrome)

กลุ่มอาการแพ้เครื่องสำอางค์ มักจะมีอาการผื่นแพ้ แสบคัน ผิวหนัง ซึ่งสัมพันธ์กับการใช้ ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้า ซึ่งบางคนอาจจะลองเปลี่ยนมาหลายชนิด หลายยี่ห้อ แต่ก็มีอาการตลอด ซึ่งบางครั้งอาการอาจไม่ชัดเจน อาจมีเพียงอาการคัน ๆ หรืออาการอาจจะมากจนเป็นลมพิษเลยก็ได้

ในการรักษากลุ่มนี้ ที่สำคัญคือต้องเลี่ยงเครื่องสำอางค์ทุกอย่าง อย่างน้อย 6-12 เดือน แล้วค่อย ๆ เริ่มกลับมาใช้ทีละตัว โดยแต่ละตัวต้องค่อย ๆ เริ่ม โดยใช้เวลาไม่น้อยกว่า 2 อาทิตย์

ประเภทของการแพ้

เราสามารถแบ่งอาการแพ้ของผิวหนังจากเครื่องสำอาง์ได้ 4 ประเภท ดังนี้

1. ชนิดเป็นสิว  (Acne type)

เป็นอาการแพ้ชนิดกระตุ้นให้เกิดสิวอุดตัน ทั้งชนิดหัวปิด และหัวเปิด

ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวหน้า และเส้นผม บางชนิด สามารถกระตุ้นให้เกิดสิวได้ ซึ่งอาจใช้เวลาไม่กี่วันหรือหลายวันก็ได้ ดังนั้นในคนที่เป็นสิวอยู่แล้ว จึงยิ่งต้องควรใช้ผลิตภัณฑ์สำหรับผิวแพ้ง่าย และได้รับการทดสอบแล้วว่าไม่ทำให้เกิดสิว

2. ชนิดโรซาเซีย (Rosacea Type)

กระตุ้นให้เกิดลักษณะของโรคโรซาเซีย คือ มีหน้าแดง รู้สึกร้อนวูบวาบที่ใบหน้า

3.ชนิดระคายเคือง (Stinging Type)

ทำให้เกิดอาการระคายเคือง แสบร้อน คัน โดยไม่มีอาการแสดงที่ผิวหนัง ซึ่งมักจะเกิดภายใน 1 ชม หลังจากทาครีม  ซึ่งคนไข้ในกลุ่มนี้ควรหลีกเลี่ยง ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนประกอบของ AHA ( โดยเฉพาะ Glycolic acid) , Benzoic acid  , lactic acid , sorbic acid และ vitamin C เป็นต้น

4.ชนิดแพ้ (Allergic Type)

แพ้ชนิดนี้ จะทำให้เกิดผื่นแดง คัน ลอก แบบผื่นแพ้ผิวหนัง ซึ่งมักพบจากการใช้ สเปรย์ดับกลิ่นกาย , น้ำหอม , skin care , hair care รวมถึง ยาทาเล็บ  และสารกันเสีย

การรักษาเบื้องต้น

ในกรณีที่เป็นมากก็ควรพบแพทย์เพื่อรับคำปรึกษา และใช้ยารักษาที่ถูกต้องนะครับ นอกจากนี้หลักการรักษาเบื้องต้นมีดังนี้ครับ

1. หลีกเลี่ยง เครื่องสำอางค์ ทุกชนิด อย่างน้อย 6-12 เดือน

2. ล้างหน้าด้วยน้ำเปล่า โดยไม่ต้องใช้สบู่

3. กรณีจำเป็นต้องใช้ moisturizer สามารถเลือกใช้ชนิดที่มีส่วนผสมของ Glycerin และ rose water ได้

4. กรณีไม่มีอาการบริเวณตา และปาก สามารถใช้ ลิปสติก และ เครื่องสำอางค์สำหรับตา ได้

 

นพ.เอกพงศ์  อธิคมชัยวงศ์

ติดต่อเรา/ปรึกษาแพทย์