การดูดไขมันอันตรายไหม?
การดูดไขมัน คือการผ่าตัดนำไขมันส่วนเกิน หรือไขมันดื้อ ที่ไม่ตอบสนองต่อการออกกำลังกายและการคุมอาหาร ออกจากร่างกาย เป็นการลดไขมันเฉพาะจุดที่ถือว่าเห็นผลทันที แบบค่อนข้างถาวร จึงเป็นที่นิยมสำหรับผู้ที่มีปัญหารูปร่างครับ
จริง ๆ แล้วการดูดไขมันเป็นการผ่าตัดที่ค่อนข้างปลอดภัยมาก แต่ทุก ๆ การผ่าตัดต่างก็มีความเสี่ยงมากน้อยแตกต่างกันไปครับ สำหรับการดูดไขมัน ถึงจะมีอันตรายน้อยมาก แต่คนไข้ก็จำเป็นที่ต้องรู้ความเสี่ยงก่อนที่จะทำการรักษา รวมถึงผลข้างเคียง การฟื้นตัว รวมถึงการดูแลตนเองในระยะยาว เพื่อเป็นข้อมูลในการพิจารณาทั้งร่างกายของตนเอง เลือกสถานพยาบาล และตัดสินใจดูดไขมันครับ
4 ปัจจัย เพื่อความปลอดภัยของการดูดไขมัน
การดูดไขมันจะอันตรายหรือปลอดภัย มี 4 ปัจจัย ที่ต้องคำนึงถึงเป็นพิเศษครับ ได้แก่ :
1.อุปกรณ์ และเครื่องมือ ต้องทันสมัย และได้มาตรฐาน
การผ่าตัดทุกชนิด อุปกรณ์ เครื่องมือ ห้องผ่าตัด รวมไปถึงระบบปลอดเชื้อ ต่างมีความสำคัญอย่างมาก ดังนั้นระบบทุกอย่างจึงต้องได้มาตรฐาน ทั้งการทำความสะอาดเครื่องมือ การอบฆ่าเชื้อ การใช้ชุดผ่าตัด และเครื่องมือที่ปลอดเชื้อ เป็นขั้นแรกที่จะช่วยลดอันตรายจากการดูดไขมันแล้วติดเชื้อได้เป็นอย่างแรกเลยครับ
และสำหรับการดูดไขมัน สิ่งที่ขาดไม่ได้เลยคือมาตรฐานของเครื่องที่ต้องใช้ในกระบวนการดูดไขมัน ตั้งแต่เครื่องฉีดยาชา เครื่องช่วยสลายไขมัน และเครื่องดูดไขมัน ซึ่งถ้าหากย้อนไปในสมัยก่อน (30 ปีที่แล้ว ช่วง 1990s) การดูดไขมันยังเป็นการดูดแบบเก่า คือไม่มีการสลายไขมันก่อน เป็นการใช้เครื่องดูดกระแทกไขมันให้หลุดออก จึงเกิดการบาดเจ็บต่อเส้นเลือด เส้นประสาท และผลข้างเคียงได้เยอะกว่าปัจจุบันมาก
แต่ในปัจจุบัน เรามีเครื่องมือที่ช่วยในการทำให้ไขมันหลุดออกมา สลายออกมา ก่อนที่จะทำการดูด โดยแบ่งตามพลังงานที่ใช้ เช่น พลังงานเลเซอร์ (Smarlipo) , พลังงานน้ำ (Body-Jet) , คลื่นวิทยุ (Bodytite) , คลื่น Ultrasound (Vaser) ซึ่งแต่ละเครื่อง ต่างก็มีข้อดีข้อเสีย แตกต่างกันไปบ้างเล็กน้อย แต่สำหรับที่อิสสวีร์เราเลือกใช้ คลื่นอัลตร้าซาวน์เป็นหลัก เพราะจากประสบการณ์แล้วพบว่า สามารถสลายไขมันได้ดี ตัดพังผืดได้ดี และสามารถควบคุมการดูดให้เป็นไปดั่งต้องการได้ง่ายครับ
แล้วจะเลือกใช้เครื่องไหนดี? หากถามในมุมของหมอ และจากประสบการณ์ลองใช้เครื่องทุกแบบมากว่า 10 ปี โดยสรุปแล้ว ขอแค่เป็นการดูดไขมัน ที่มีเครื่องมือที่ช่วยในการสลายไขมันที่มีมาตรฐาน เหมือนตัวอย่างเหล่านี้ ไม่ว่าเครื่องใดต่างก็ทำให้การดูดไขมันมีควาามปลอดภัยแล้วครับ (หากทำการผ่าตัดภายใต้ความชำนาญของแพทย์ที่ทำการดูดไขมันด้วยครับ) ส่วนจะใช้เครื่องใด ก็แตกต่างไปตามความชอบ ความถนัดของแพทย์ อย่างที่อิสสวีร์คลินิก เราเน้นใช้เครื่อง ultra-Z เป็นหลัก เพราะสลายไขมันได้ดีกว่าเครื่องอื่น ๆ และไม่พบปัญหาผิวไหม้เลย ส่วนเครื่องอื่น ๆ หมอได้ลองแล้วพบว่าผลลัพธ์ไม่ต่างกัน แต่บางเครื่องทำให้การสลายไขมันทำได้ยากขึ้นครับ
1.เทคนิคและประสบการณ์ของแพทย์ :
สำหรับเทคนิคการดูดไขมันนั้น จะต้องเริ่มต้นตั้งแต่ ขั้นตอนการวางแผนการดูด การเลือกตำแหน่งลงแผล วิธีการฉีดยาชา วิธีการดูด รวมไปถึงว่าจะดูดแค่ไหนพอ สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นปัจจัยที่ทำให้การดูดไขมันปลอดภัยมากขึ้นครับ
2.1 ขั้นตอนการปรึกษา วางแผนการดูดไขมัน
ก่อนการดูดไขมัน การเลือกว่าคนไข้เหมาะกับการดูดหรือไม่ มีลักษณะร่างกายแบบใด ต้องใช้เทคนิคอะไร ผลลัพธ์จะเป็นอย่างไร เป็นสิ่งแรกที่หมอต้องพูดคุยกับคนไข้ก่อน เพื่อวางแผนในการรักษา
ถ้าคนไข้ไม่เหมาะกับการรักษาด้วยการดูดไขมัน ทำแล้วมีความเสี่ยง ทำแล้วอาจมีอันตราย แพทย์ก็จะแนะนำให้หลีกเลี่ยงการรักษาด้วยวิธีนี้ครับ
2.2 เทคนิคในการดูดไขมัน
ในขั้นตอนการดูดไขมัน อย่างที่กล่าวว่า ปัจจุบันเครื่องมือที่ช่วยสลายไขมันที่พัฒนาขึ้น ทำให้การดูดไขมันปลอดภัยยิ่งขึ้น แต่เทคนิคความชำนาญของแพทย์ก็ยังสำคัญอย่างมาก ตั้งแต่ปริมาณยาชาที่ใช้้ไม่ควรมากเกินไป การสลายไขมันต้องระมัดระวังไม่ให้เกิดผิวไหม้ และต้องระวังในการสลายไขมัน ไม่ให้ลงลึกเกินชั้นกล้ามเนื้อ เพราะจะทำให้เกิดการบาดเจ็บต่อเส้นเลือด เส้นประสาท รวมไปถึงอวัยวะภายในร่างกายได้
นอกจากนี้ ปริมาณไขมันที่ดูดออกไป จะดูดแค่ไหนพอ รวมไปถึงการดูแลหลังการดูดไขมันก็เป็นสิ่งสำคัญเช่นกัน ความชำนาญของแพทย์ จะช่วยลดปัญหาที่จะเกิดในขั้นตอนเหล่านี้ได้ครับ ยกเว้นบางท่านที่มีเหตุสุดวิสัยจริง ๆ จากการดูดไขมัน ก็อยู่นอกเหนือสิ่งที่แพทย์สามารถควบคุมได้ครับ
2.สุขภาพ และโรคประจำตัว
การตรวจร่างกาย และประเมินร่างกายคนไข้ว่าเหมาะกับการดูดไขมันหรือไม่ เป็นสิ่งสำคัญมาก ที่ต้องตรวจเช็คอย่างละเอียด เพื่อความปลอดภัยของคนไข้ดูดไขมันครับ
ที่อิสสวีร์คลินิก หมอจะทำการประเมินความเสี่ยงต่อโรคต่าง ๆ ก่อนทำการผ่าตัด โดยจะแบ่งเป็นสองกลุ่มคือ กลุ่มที่ไม่ควรรักษาด้วยการดูดไขมันเลย และกลุ่มที่อาจจะดูดไขมันได้ ซึ่งในกลุ่มนี้แพทย์จะต้องทำการประเมินอย่างละเอียดอีกครั้ง เพราะอาจจะมีปัญหาหลังการรักษาตามมา ใครสนใจดูดอยู่สามารถเช็คได้จากภาพเลยครับ
กลุ่มที่ห้ามทำเด็ดขาด (Absolute contraindication)
1.มีโรคความผิดปกติด้านการกิน (Eating Disorders)
2.มีโรคอ้วน (Morbid Obesity) ค่า BMI>35
3.ความคาดหวังผลการรักษาที่มากเกินไป (Unrealistic Expectations)
4.ติดยาเสพติด หรือติดแอลกอฮอล์
5.ใช้ยาบางชนิดที่ไม่สามารถหยุดได้ เช่น ยาที่ทำให้เลือดหยุดยาก
6.ตั้งครรภ์ หรือหลังคลอดไม่เกิน 6 สัปดาห์
7.ใช้ยากดภูมิคุ้มกัน เช่น สเตียรอยด์
8.ใช้ยาต้านการแข็งตัวของเลือด
9.รับการผ่าตัดใหญ่มาไม่เกิน 6 เดือน
10.เคยเป็นโรคเส้นเลือดสมอง (Stroke) หรือ เส้นเลือดหัวใจ
11.มีประวัติแพ้ยาชา
12.มีความเครียดมาก ๆ หรือเป็นโรคซึมเศร้า วิตกกังวล
13.เป็นเบาหวานที่ควบคุมไม่ได้
กลุ่มที่อาจดูดได้ (ต้องให้แพทย์พิจารณาเป็นรายบุคคล)
1.เคยมีผลข้างเคียงจากการดูดไขมัน
2.ใช้ยาบางอย่างอยู่ ที่หยุดไม่ได้ (ต้องดูที่ตัวยาอีกที)
3.ดูดไขมันแก้ในตำแหน่งเดิม
4.พฤติกรรมมีความเสี่ยงที่น้ำหนักตัวจะเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ
5.น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ หรือเพิ่มมากว่า 20 kg ในปีที่ผ่านมา
6.สูบบุหรี่ปริมาณมาก
7.ดื่มแอลกอฮอล์ปริมาณมาก
8.มีปัญหาทางจิตเวช หรืออาการวิตกกังวลมาก ๆ
4. การเลือกวิธีการระงับปวด
การเลือกวิธีการระงับปวด ที่ต่างกัน ก็เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยในการดูดไขมันเช่นกันครับ โดยสรุปง่ายคือ ถ้าใช้การฉีดยาชาอย่างเดียว (Local Anesthesia) ก็จะปลอดภัยมาก แต่คนไข้ก็ต้องใช้ความอดทนต่อความเจ็บปวดในช่วงการฉีดยาชา ซึ่งแต่ะละตำแหน่งที่ดูดไขมันก็จะมีความเจ็บที่แตกต่างกันไปครับ
ส่วนการดมยาสลบ มีข้อดีที่ทำให้คนไข้ไม่รู้สึกเจ็บปวดขณะทำเลย และเหมาะในท่านที่ต้องการดูดไขมันหลาย ๆ ตำแหน่งพร้อมกัน แต่ก็จะเพิ่มความเสี่ยงในการดูดไขมันขึ้นมาครับ จึงต้องมีการตรวจร่างกาย เจาะเลือด เพื่อเช็คความพร้อมของร่างกายก่อนดมยาสลบ และการดมยาสลบ ก็ต้องมีวิสัญญีแพทย์ที่ดูแลโดยเฉพาะด้วยครับ
หมอได้สรุปข้อดีข้อเสียของการฉีดยาชา และการดมยาสลบไว้ให้ดังนี้ครับ
สรุปอันตราย ความเสี่ยง และภาวะแทรกซ้อนที่อาจพบได้จากการดูดไขมัน
แล้วการดูดไขมัน มีอันตราย หรือความเสี่ยงอะไรบ้างที่เจอได้ สำหรับใครที่กำลังสนใจดูดไขมัน ก็ควรรู้ไว้ครับ เพื่อจะได้ประเมินความเสี่ยง และเป็นข้อมูลในการตัดสินใจทำการดูดไขมัน
ทุกความเสี่ยงที่อาจเจอได้จากการดูดไขมัน เป็นสิ่งที่ต้องระวัง แต่ไม่ต้องกลัวมากครับ เพราะเราต้องรู้ความเสี่ยง เพื่อให้สามารถจัดการเพื่อควบคุมความเสี่ยงให้น้อยที่สุดครับ
1. ผลข้างเคียงแบบเล็กน้อย
-อาการบวม ช้ำ : เป็นอาการที่พบในทุกท่านที่ดูดไขมันครับ ซึ่งอาการช้ำมักจะหายภายใน 2 อาทิตย์ ส่วนอาการบวม ในดูดไขมันจะต้องใช้เวลาตั้งแต่ 1-3 เดือน ที่จะค่อย ๆ ยุบบวมจนได้ผลลัพธ์ที่น่าพอใจครับ
-อาการชา : อาการชาชั่วคราวบริเวณผิวหนังตำแหน่งที่ดูดไขมัน เป็นอาการที่พบได้ปกติหลังจากดูดไขมัน ซึ่งอาการจะค่อยๆหายดีเป็นปกติขึ้นเรื่อยๆครับ (มักเป็นไม่เกิน 3 เดือน)
-ถุงน้ำ : หรือที่เรียก seroma เกิดจากการรวมตัวกันของของเหลวใต้ผิวหนังที่อาจจะเกิดขึ้นได้หลังดูดไขมันแล้ว โดยปกติจะสามารถหายได้เอง แต่ในบางเคสอาจจะต้องเข้ามาให้หมอเจาะระบายน้ำออก อาการนี้มักเจอในท่านที่ดูดไขมันในปริมาณมาก ๆ ครับ
-อาการแผลติดเชื้อเล็กน้อย : สามารถพบได้บริเวณรอบ ๆ แผลดูดไขมัน เพราะในบางท่านอาจมีการดูแลแผลที่ไม่ดีพอ หรือเกิดจากการที่ดูดไขมันเป็นเวลานาน ก็อาจทำให้ขอบแผลมีการบาดเจ็บมาก เกิดเป็นการติดเชื้อเล็ก ๆ ตามมาได้ ซึ่งสามารถหายได้ด้วยการทายาและกินยาครับ
-ผิวเป็นคลื่นหรือไม่เรียบ : การดูดไขมันออกที่ไม่สม่ำเสมอ หรือ การที่คนไข้มีผิวหนังที่ขาดความยืดหยุ่น อาจจะทำเกิดคลื่นหรือผิวหนังไม่เรียบได้ แต่ด้วยประสบการณ์ เทคนิค และ การประเมินคนไข้ก่อนผ่าตัดจะช่วยลดความเสี่ยงเหล่านี้ได้ครับ (ที่อิสสวีร์หมอจะประเมินตั้งแต่ก่อนผ่าตัดว่ามีโอกาสผิดเป็นคลื่น ผิวหย่อนหรือไม่ ต้องทำการรักษาอะไรร่วมเพิ่มไหม หรือจะใช้เทคนิคใดเพิ่มเพื่อลดโอกาสเกิดผลข้างเคียงนี้)
2. ผลข้างเคียงแบบรุนแรง
-การติดเชื้อแบบรุนแรง : การติดเชื้อที่รุนแรง จนทำให้เกิดเนื้อตายบริเวณผิวหนัง ในกรณีนี้พบได้ยากมาก หากมีการเตรียมห้องผ่าตัดอย่างเหมาะสม มีการฆ่าเชื้อเครื่องมือและอุปกรณ์ผ่าตัดตามมาตรฐาน จากประสบการณ์กว่า 12 ปี ที่อิสสวีร์คลินิกยังไม่เคยพบการติดเชื้อรุนแรงเข้าไปในบริเวณไขมัน จะพบอย่างมากแค่การติดเชื้อเล็ก ๆ บริเวณแผลผ่าตัด จากการดูแลแผลหลังผ่าตัดที่ไม่ดีพอครับ
-ภาวะเลือดออกมาก หรือบาดเจ็บอวัยวะภายในหรือเส้นเลือด : ภาวะแทรกซ้อนที่เกิดจากการที่เครื่องมือดูดไขมันลงลึกเกินไปจนถูกอวัยวะภายใน หรือเส้นเลือดใหญ่ เป็นภาวะที่เจอได้ยากมาก หากแพทย์มีประสบการณ์ความชำนาญครับ ยกเว้นว่า คนไข้มีอวัยวะหรือเส้นเลือดในบริเวณนั้นผิดปกติอยู่แล้ว ส่วนภาวะเลือดออกมาผิดปกติ หากไม่ได้มีโรคเลือดหยุดยาก กินยาละลายลิ่มเลือด ก็มีโอกาสเกิดขึ้นได้ยากเช่นกัน
-ความเสี่ยงจากการดมยาสลบ : เช่นเดียวกับการผ่าตัดอื่นๆที่ต้องดมยาสลบ การดมยาสลบจะมีความเสี่ยง จากปฏิกิริยาการแพ้ยาสลบ หรือ ภาวะแทรกซ้อนอื่น ๆ ยาการดมยาสลบได้ ถ้าใครที่เคยดมยาสลบมาก่อน แล้วไม่มีปัญหาอะไร ก็ไม่น่ากังวลกับข้อนี้ครับ สำหรับการแพ้ยาสลบถึงจะรุนแรง แต่ก็เจอได้น้อยมาก คือ ประมาณ 1 ใน 20000 คนครับ
-โรคหลอดเลือดดำส่วนลึกอุดตัน (DVT) ภาวะลิ่มเลือดอุดกั้นในปอด และภาวะไขมันอุดตันในเส้นเลือด : ภาวะแทรกซ้อนเหล่านี้พบได้น้อยมาก (น้อยกว่า 1%) แต่สามารถเกิดขึ้นได้ในคนไข้บางราย โดยเฉพาะคนไข้ที่มีปัจจัยเสี่ยงอยู่แล้วครับ (เช่นมีประวัติโรคหลอดเลือดอุดตันสมอง หรือหัวใจ) หรือในคนไข้ที่ดมยาสลบ ดูดไขมันในปริมาณมาก ๆ หรือมีการผ่าตัดอื่นร่วมด้วยเช่น ผ่าตัดเย็บหนังหน้าท้อง ก็จะมีความเสี่ยงภาวะนี้ได้บ้าง แต่ในท่านที่ไม่ได้ดมยาสลบ หรือดูดไขมันไม่ได้เยอะมาก (ไม่ถึง 4 ลิตร) ก็จะมีโอกาสเจอภาวะนี้ได้น้อยมากครับ ซึ่งสำหรับภาวะนี้ถึงจะเจอน้อยมาก แต่ก็เป็นข้อที่อันตรายมาก แพทย์จึงต้องระวังเป็นพิเศษ อย่างที่อิสสวีร์คลินิก ในท่านที่ดมยาสลบดูดไขมันปริมาณมาก เราก็จะต้องมีมาตรการป้องกันโรคนี้เป็นพิเศษ มีการใส่เครื่องปั๊มอากาศบริเวณขา เพื่อลดความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นได้ครับ
มาตรการความปลอดภัยของการดูดไขมันที่อิสสวีร์คลินิก
1. ห้องผ่าตัด ปลอดเชื้อ ได้มาตรฐาน
ที่อิสสวีร์ เรามีระบบห้องผ่าตัด ที่ได้มาตรฐาน ปลอดเชื้อ มีระบบระบายอากาศลดการติดเชื้อ มีเครื่องมือฉุกเฉิน และเครื่องมือดูแลคนไข้อย่างครบครัน
2. การตรวจ และให้คำปรึกษาอย่างถูกต้อง
แพทย์ของเราจะทำตรวจร่างกาย และให้คำปรึกษาคนไข้ทุกท่าน ก่อนทำการดูดไขมัน วางแผน และให้ข้อมูลที่ถูกต้อง จริงใจ ใครที่ไม่เหมาะกับการทำ ก็จะแจ้งข้อมูลอย่างชัดเจน ไม่มีการฝืนทำการรักษา
3. เทคนิคการดูดไขมัน และความชำนาญ
ที่อิสสวีร์คลินิก เรามีทีมแพทย์ และบุคคลากรที่เชี่ยวชาญ มีประสบการณ์ และมีโปรแกรมการดูแลคนไข้ดูดไขมัน ที่พัฒนามาอย่างต่อเนื่อง เพื่อผลลัพธ์ที่ดี และปลอดภัยครับ
4. การเลือกวิธีลดความเจ็บ
เรามีวิธีลดความเจ็บปวด ตั้งแต่การฉีดยาชา การใช้ยาสูดลดปวด ไปจนถึงการดมยาสลบ โดยจะเลือกให้เหมาะสมกับแต่ละท่าน สำหรับท่านที่เลือกการดมยาสลบ เรามีวิสัญญีแพทย์ที่คอยดูแลใกล้ชิดแบบ 1:1 ตลอดระยะเวลาผ่าตัดครับ
5. การดูแลหลังผ่าตัด
การดูแลหลังผ่าตัด ก็สำคัญมากเช่นกัน ที่อิสสวีร์คลินิก เรามีแผนก aftercare ที่คอยดูแลทุกท่านหลังการดูดไขมัน รวมไปถึงการใช้เทคโนโลยีต่าง ๆ เช่น การฉายแสง การนวดกระชับ เพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาดีที่สุด และหากท่านใดที่มีปัญหาจากการดูดไขมัน เราก็พร้อมดูแลต่อเนื่อง ด้วยความใส่ใจ ไม่ทิ้งเคสแน่นอนครับ
6. ความใส่ใจ และจริงใจในบริการ
ที่อิสสวีร์คลินิก เราเน้นย้ำมากกับความจริงใจ และความใส่ใจคนไข้ทุกคน ให้ได้รับการรักษาที่ดี ได้ผลลัพธ์อย่างที่ต้องการ บนความปลอดภัยสูงสุดครับ
7. ผลลัพธ์ และเทคนิค เลือกให้เหมาะกับรูปร่างแต่ละบุคคล
เพราะแต่ละท่าน มีรูปร่างไม่เหมือนกัน หากท่านที่มีน้ำหนักตัวปานกลาง รูปร่างอวบ การดูดไขมันก็ต้องเป็นการดูดเพื่อปรับรูปร่างโดยรวม ไม่แนะนำการดูดแบบ high definition แต่ถ้าเป็นท่านที่รูปร่างผอม ก็สามารถดูดแบบตื้นมาก ๆ ดูด sexy line หรือ six pack ได้ครับ
ข้อนี้ค่อนข้างสำคัญ เพราะหากเลือกใช้เทคนิคไม่เหมาะสมกับรูปร่าง อาจจะนำมาสู่ปัญหาได้ เช่น คนรูปร่างอวบ ถ้าดูดบางเกินไป หรือพยายามดูดมากเกินไป ก็อาจทำให้ผิวหย่อน เป็นคลื่น หรือรูปร่างไม่สมส่วนตามมาได้ครับ
เพื่อลดความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับการดูดไขมันดังที่หมอได้กล่าวไปข้างต้น โดยเฉพาะผลข้างเคียงที่รุนแรง สิ่งสำคัญคือการเลือกแพทย์ที่มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญ มีความรู้เกี่ยวกับเทคนิค เทคโนโลยี และ มาตรการความปลอดภัยในการผ่าตัด เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด โดยความเสี่ยงต่อการเกิดผลข้างเคียงน้อยที่สุด นอกจากนี้การประเมินคนไข้ก่อนผ่าตัดอย่างละเอียด รวมถึงการซักประวัติคนไข้ และสอบถามความคาดหวังจากคนไข้ ก็ยิ่งช่วยป้องกันและลดความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นได้ ที่อิสสวีร์คลินิก เราเน้นมาก ๆ กับการวางแผนตั้งแต่ต้น หากคนไข้ที่มีความเสี่ยง เราก็จะปฏิเสธในการรักษาดูดไขมัน หรือหากเป็นความเสี่ยงที่ยอมรับได้ เราก็จะต้องพูดคุยกับคนไข้อย่างละเอียดให้เข้าใจสิ่งที่อาจเกิดขึ้นได้ครับ เช่น อาจมีผิวหย่อน ผิวเป็นคลื่นได้
อย่างไรก็ตาม หากรักษาไปแล้วเกิดผลข้างเคียงขึ้น การดูแลอย่างรวดเร็ว เพื่อแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น ทั้งระบบการรับมือภาวะฉุกเฉิน การดูแลอย่างต่อเนื่องก็เป็นสิ่งที่คลินิกให้ความสำคัญอย่างมากเช่นกันครับ
สรุปแล้ว แม้ว่าการดูดไขมันจะมีความเสี่ยงอยู่บ้าง แต่ก็ถือเป็นการผ่าตัดที่ปลอดภัยมากเมื่อทำโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์และเชี่ยวชาญ เมื่อเข้าใจถึงความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นได้ และมีการเตรียมความพร้อมที่เหมาะสม คนไข้ก็สามารถตัดสินใจที่จะดูดไขมันเพื่อให้ได้ผลลัพธ์รูปร่างและสัดส่วนตามที่ต้องการได้ครับ
นพ.เอกพงศ์ อธิคมชัยวงศ์
อิสสวีร์คลินิก