KYBELLA® (คีเบลล่า)

Kybella®  คืออะไร? 

Kybella คือ ยาฉีดที่ผ่านการรับรองจาก US FDA ว่าช่วยทำลายเซลล์ไขมัน ในบริเวณที่ต้องการฉีดรักษา โดยเฉพาะบริเวณไขมันใต้คาง หรือไขมันเหนียง

 

Kybella ต่างจาก เมโสแฟต อย่างไร

ในอดีตนั้นหลาย ๆ คนจะคุ้นเคยกับคำว่า “Mesofat” ซึ่งก็คือการใช้สารฉีดสลายไขมัน โดยส่วนใหญ่มักจะเป็นสารสกัดจากสาหร่ายบางชนิด, เปลือกวอลนัท หรือ สารสกัดจากถั่วเหลือง เป็นต้น ซึ่งสารสกัดเหล่านี้มีจำกัดในการออกฤทธิ์สลายไขมันในร่างกาย และเนื่องจากเป็นสารสกัดที่ไม่ได้มีการศึกษาค้นคว้าที่ได้มาตรฐาน โดยเฉพาะเรี่องของผลการรักษาในคนจริง ดังนั้นจึงเรียกได้ว่าแทบจะไม่มี Mesofat ยี่ห้อใดเลยที่ได้รับ การรับรองจาก USFDA( องค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกา ) และนอกจากนี้ยังมีผลเรื่อง “โย โย่” คือ ไขมันมักจะกลับมาใหม่เมื่อฉีดไปแล้วระยะหนึ่งเสมอ (ในขณะที่ KYBELLA® จะไม่เกิดโยโย่)

ตัวยาสลายไขมันในท้องตลาด จะแบ่งเป็นสองกลุ่ม

1.Adipocytolysis หรือแปลว่า ทำให้เซลล์ไขมันแตก (Adipocyte = เซลล์ไขมัน Cytolysis = เซลล์ตาย ) มักจะมีส่วนประกอบของ Deoxycholic Acid ( DCA )  หรือ PPC โดยตัวยาจะเข้าไปทำปฏิกิริยากับเซลล์ไขมันให้เกิดการบวมขึ้นเรื่อยๆ จนพองตัวและแตกสลายในที่สุด ส่วนซากเซลล์จะถูกขับออกไปทางน้ำเหลือง เปรียบเสมือนกับลูกโป่งที่อัดลมจนพองแล้วแตก ส่วนเศษของลูกโป่งก็จะสลายไปจนไม่หลงเหลือซากเอาไว้ ทั้งนี้ภายใน 1 สัปดาห์หลังทำ จะเกิดการสร้างคอลลาเจนขึ้นมาใหม่ เพื่อยกกระชับผิวไม่ให้หย่อนคล้อย และไม่เกิดอาการโยโย่ตามมาในภายหลัง จึงนับว่าเป็นวิธีที่ช่วยลดไขมันได้อย่างถาวร ข้อเสียคือเจ็บระบบอักเสบได้เนื่องจากเซลล์ไขมันมีการแตกตัว

2.Lipolysis หรือ การเอาไขมันออกจากเซลล์ แต่จำนวนเซลล์ไขมันก็ยังคงจำนวนอยู่เท่าเดิม เซลล์ไขมันแค่เล็กแฟบลง ผลลัพธ์ที่ได้จึงทำให้เรารู้สึกว่าผอมลง เสมือนว่าไขมันได้หายไปจริงๆ แต่ความเป็นจริงแล้ว เมื่อใดก็ตามที่เราน้ำหนักเพิ่มขึ้น เซลล์ไขมันที่เคยแฟบลงก็จะกลับมาขยายตัวพองโตขึ้นเหมือนเดิม และจะมีการเพิ่มจำนวนของเซลล์ไขมันอีกด้วยครับ ซึ่งจะทำให้เกิดอาการโยโย่ และทำให้ลดขนาดยากลงกว่าเดิมด้วย ด้วยเหตุนี้ยาทั่วๆ ไปส่วนใหญ่จึงไม่ใช่ยาที่สามารถกำจัดไขมันออกไปได้อย่างถาวร จะพบได้ในเมโสแฟตที่มีส่วนประกอบอย่าง Lecithin หรือ Bromelain โดยส่วนใหญ่มักจะเป็นสารสกัดจากสาหร่ายบางชนิด, เปลือกวอลนัท หรือ สารสกัดจากถั่วเหลือง เป็นต้น

นอกจากนี้เนื่องจากใน Mesofat ที่เป็นสารสกัดทั่ว ๆ ไปมักจะมีสารสำคัญหลาย ๆ ชนิดปนกันเสมอ (บางยี่ห้อมีสารสำคัญมากกว่า 10 ชนิด) ดังนั้น จึงพบว่าคนไข้บางคนมีอาการแพ้ โดยไม่สามารถคาดเดาได้ว่าแพ้สารใดใน Meso fat นั้น  และจากข้อบกพร่องสำคัญสองเรื่องดังกล่าวจึงได้มีผู้วิจัยคิดค้นพัฒนา “ยา” เพื่อมาตอบโจทย์แก้ไข้จุดบกพร่องดังกล่าว ซึ่งได้แก่ KYBELLA® นั้นเอง

Kybella เห็นผลจริงไหม

https://www.mykybella.com/what-causes-submental-fullness#

จากงานวิจัยของ kybella จะเห็นได้ว่าผู้เข้ารับการวิจัยได้ผลลัพธ์ที่ดีขึ้นระดับ 1 ถึง 70% และระดับ 2 (ดีมาก) ถึง 18.6% ซึ่งส่วนมากจะเริ่มเห็นผลชัดเจนตั้งแต่ การรักษา 2 ครั้ง จนถึง 4 ครั้งและ 59% ของคนไข้ ได้รับการรักษาทังหมด 6 ครั้ง

 

KYBELLA® ออกฤทธิ์ยังไง?

KYBELLA® เป็นยาฉีดสลายไขมันที่มีสารออกฤทธิ์ในการช่วยสลายไขมัน ที่เรียกว่า Deoxycholic Acid ( DCA ) ซึ่งเป็นสารสังเคราะห์ที่ผลิตขึ้นมาเพื่อเลียนแบบน้ำดี หรือน้ำย่อย ( Bile ) ที่มีอยู่แล้วในร่างกายของคนเราตามธรรมชาติครับ จึงมีโอกาสเกิดอาการแพ้โดยธรรมชาติได้น้อยมาก  น้ำดีของคนเราจะถูกสร้างขึ้นที่ตับ และไปเก็บสะสมไว้ที่ถุงน้ำดีเพื่อรอเวลาที่จะถูกใช้ โดยน้ำดีมีหน้าที่ช่วยในการย่อยสลายสารอาหารประเภทไขมัน เพื่อให้ลำไส้เล็กดูดซึมเข้าสู่ร่างกายได้ง่าย แต่สำหรับน้ำดีสังเคราะห์อย่าง Deoxycholic Acid ( DCA )  เมื่อเข้าสู่ร่างกายแล้ว จะทำหน้าที่ย่อยไขมันให้สลายออกไปจากร่างกาย โดยเซลล์ไขมันที่ตายแล้วจะถูกขับถ่ายออกไปทางอุจจาระนั่นเอง

DCA (Deoxycholic acid) เป็นคำย่อที่ใช้เรียก “ยาฉีดสลายไขมัน”  ซึ่ง ณ ปัจจุบัน ถือว่าเป็น สารสำคัญตัวแรก และตัวเดียวที่ได้รับการรับรองจาก องค์การอาหาร และยาของประเทศสหรัฐอเมริกา (US FDA) ในการใช้ยาฉีดสลายไขมัน

นอกจากนี้ DCA เป็นสารสำคัญที่ได้รับการพัฒนา และศึกษาจริงในมนุษย์ตามมาตราของการพัฒนา “ยารักษาโรค” ดังนั้นจึงกล่าวได้ว่า DCA เป็นสารสำคัญที่จัดว่าเป็น “ยา” ตัวแรก และตัวเดียวในขณะนี้ โดยได้รับการรับรองจาก องค์การอาหาร และยา ประเทศสหรัฐอเมริกา FDA

กระบวนการทำงานของ KYBELLA® 

สำหรับยาสลายไขมัน  KYBELLA นั้น ไม่ได้เป็นยาที่ลดขนาดเม็ดเซลล์ไขมันให้แฟบลงเหมือนยาทั่วๆ ไป แต่เป็นการกำจัดไขมันในลักษณะของการกำจัดตัวเซลล์ไขมัน ผ่านกลไก Adipocytolysis 

โดยเมื่อเราฉีดยา คีเบลล่า เข้าไป จะทำให้เซลล์ไขมันบริเวณนั้นเกิดการแตกตัว ทำให้เซลล์เม็ดเลือดขาว (Macrophage) มาเก็บทำลายเซลล์ไขมันเหล่านั้น  ตามมาด้วยกระบวนการอักเสบที่จะกระตุ้นเซลล์ fibroblast ให้มีการสร้างคอลลาเจนในบริเวณนั้นมากขึ้น ทำให้เกิดความกระชับของผิวในบริเวณที่ฉีดมากยิ่งขึ้น และเนื่องจากเป็นการทำลายเซลล์ไขมันไปเลย ทำให้สามารถลดเหนียง ได้อย่างค่อนข้างถาวร 

KYBELLA เหมาะกับใคร ?

 

• ผู้ที่มีไขมันส่วนเกินตามส่วนต่างๆ ได้แก่ เหนียงใต้คาง, ไขมันส่วนเกินบริเวณแนวขากรรไกร, ปีกหลัง, Bra Line, ต้นแขน, ขาเบียด, หน้าท้อง, ต้นขา ฯลฯ
• ผู้ที่ต้องการให้เอวคอด อันเนื่องมาจากออกกำลังกายจนมี Six Pack ขึ้นบริเวณหน้าท้องแล้ว แต่ยังมีไขมันบริเวณทั้งสองข้างเอวที่ยังไม่สามารถลดได้
• เสริมความมั่นใจให้กับผู้ที่ต้องการใส่เกาะอก, บิกินี่ ฯลฯ

KYBELLA สามารถใช้ร่วมกับอะไรได้บ้าง ?

• เครื่องยกกระชับ เช่น  Ulthera  Thermage เป็นต้น
• เครื่อง LASER เช่น Pico Laser
• Botox
• Filler
• สารกระตุ้นคอลลาเจน

* เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด แนะนำควรปรึกษาแพทย์ก่อนว่า ควรทำตัวไหนก่อน – หลัง

เตรียมตัวก่อนฉีด KYBELLA อย่างไร ?

• งดยาและวิตามินที่ผลต่อการแข็งตัวของเลือด 3-5 วัน เช่น วิตามินอี โสม
• ทายาชา 30 นาที ก่อนฉีด
• ประคบน้ำแข็ง 15 นาทีก่อนฉีด

วิธีฉีด KYBELLA

• ใช้เข็ม 30 G
• ฉีด KYBELLA® โดยไม่ต้องผสม 0.2-0.4 ซีซีต่อตารางเซนติเมตร ขึ้นกับความหนาของชั้นไขมันจากการประเมิน โดยฉีดเข้าชั้นไขมันใต้ผิวหนัง
• สามารถฉีดซ้ำได้ทุก 2 สัปดาห์

คำแนะนำหลังฉีด KYBELLA

• ประคบน้ำแข็งหลังฉีด 15 นาที
• หากมีอาการปวด ระบบมจากเข็มสามารถทานพาราเซตามอลได้
• หากไม่ระบมแนะนำนวดเพื่อกระจายตัวยา
• 90% ของคนไข้ไม่มีอาการบวม แต่หากมีจะยุบลงภายใน 48 ชั่วโมง
• อาจมีปวด บวม ชา บริเวณที่ทำการรักษาได้บ้าง
• เนื่องจากเป็นยาที่ไม่ถูกทำลายด้วยความร้อน จึงสามารถทำกิจกรรมต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับความร้อนได้เลยครับ

ระยะเวลาเห็นผล KYBELLA?

 

• 2 สัปดาห์ บริเวณที่ทำการฉีดจะเล็กลงอย่างเห็นได้ชัด เห็นผลลัพธ์สูงสุดในสองเดือน 
• 1 เดือน ผิวจะรู้สึกยกกระชับขึ้น เป็นผลจากการกระตุ้นคอลลาเจน 

ปริมาณยาที่ใช้ในการฉีด KYBELLA ?

ปริมาณที่ใช้ขึ้นอยู่กับแพทย์เป็นผู้ประเมินให้คนไข้ในแต่ละคน โดยส่วนใหญ่ จะอยู่ที่ตำแหน่งละ 5-10 ซีซี ครับ

มีโอกาสที่ไขมันจะกลับมาเพิ่มขึ้นไหม ?

หลังฉีด 1 ปี จำนวนผู้รับบริการ 85% ไขมันไม่กลับมา และไม่เกิดอาการโยโย่ อีกทั้งยังรู้สึกว่าดูยกกระชับขึ้น

เปรียบเทียบการลดเหนียงด้วย Kybella และการดูดไขมัน

จากประสบการณ์ของหมอที่อิสสวีร์คลินิก การลดไขมันเหนียงด้วยการดูดไขมัน เป็นวิธีที่ให้ผลลัพธ์ที่มากกว่า เพราะสามารถกำจัดเซลล์ไขมันได้เยอะมากกว่า ในการรักษาเพียงครั้งเดียว แต่ก็มีข้อเสียที่ต้องทำการผ่าตัด และต้องมีการพักฟื้น

การใช้ Kybella ถือว่าเป็นวิธีหนึ่งที่สามารถทดแทนการผ่าตัดดูดไขมัน ลดเหนียงได้ ในท่านที่ไม่ต้องการผ่าตัด ไม่ต้องการพักฟื้น เพราะ วิธีการฉีด kybella สามารถทำลายเซลล์ไขมันได้เช่นเดียวกับการดูดไขมัน ถึงแม้จะได้ปริมาณที่น้อยกว่า แต่ก็ให้ผลที่น่าพึงพอใจ และค่อนข้างถาวรเช่นกัน

โดยสรุปคือ ในการที่มีปริมาณไขมันเหนียงไม่มาก ไม่มีผิวคอหย่อนคล้อยมาก ๆ และไม่อยากผ่าตัด ไม่อยากดูดไขมัน การฉีดลดเหนียง ด้วย Kybella ก็เป็นทางเลือกที่ดีที่สุดค่ะ