Before & After Gallery
Real Story จากลูกค้า
สิว (Acne Valgaris) เป็นโรคของต่อมไขมันที่รูขุมขน โดยมากมักเป็นบริเวณ ใบหน้า คอ และลำตัวส่วนบน ซึ่งเป็นตำแหน่งที่มีต่อมไขมันขนาดใหญ่หนาแน่น เกิดได้กับคนทุกวัย แต่มักเป็นมากที่สุดกับวัยรุ่น อายุระหว่าง 12-24 ปี แต่บางคนอาจเป็น ๆ หาย ๆ จนเลยอายุ 40 ทั้งนี้ขึ้นกับปัจจัยส่งเสริมให้เกิดสิว ซึ่งถึงแม้สิวจะสามารถหายได้เอง แต่ก็มักทิ้งผลข้างเคียงเอาไว้ ทั้งรอยสิว รอยแผลเป็น หลุมสิว ซึ่งอาจอยู่กับเราไปตลอดชีวิตได้ ดังนั้นการเข้าพบแพทย์เพื่อรักษาสิว ตั้งแต่แรกเริ่มจึงมีความสำคัญมาก
ลักษณะของสิว
จากตัวอย่างรูปด้านบน จะเป็นได้ว่าลักษณะของสิวจะมีหลายแบบ ขึ้นกับระยะ และความรุนแรง ซึ่งสามารถแบ่งเป็นกลุ่มใหญ่ ๆ ได้สองกลุ่มคือ
1) สิวชนิดไม่อักเสบ
• สิวแบบไม่อักเสบ จะมี โคมิโดน (Comedo) ซึ่งเกิดจากการรวมตัวของ keratin ผิวหนัง ไขมัน และเชื้อแบคทีเรีย ที่อุดตันบริเวณรูขุมขน ถ้าเห็นเป็นสีขาว ๆ นูน ๆ อยู่ใต้ผิวหนัง ไม่มีรูเปิด จะเรียกว่า สิวหัวปิด หรือ Closed comedones แต่ถ้า เห็นเป็นเม็ดสีดำ ๆ ไม่นูนมาก ก็จะเป็น สิวหัวปิด หรือ Open comedones (รูปที่ 2)
2) สิวชนิดอักเสบ
• สิวอักเสบจะมีลักษณะ ได้หลายแบบ (รูปที่ 1) ทั้งเป็นตุ่มแดงเล็ก ๆ ตุ่มแดงมีหนองตรงปลาย ตุ่มหนอง หรือก้อน cyst ที่มีหนองภายในมาก ๆ ก็ได้
สาเหตุของสิว
สาเหตุของการเกิดสิวมี อยู่หลายประการ อย่างเช่น เมื่อเข้าสู่วัยรุ่นร่างกายมีการสร้างฮอร์โมนเพศมากขึ้น ฮอร์โมนนี้จะไปกระตุ้นต่อมไขมันให้มีขนาดโตขึ้นและผลิตไขมันมากขึ้น ดังนั้นเมื่อเข้าสู่วัยรุ่นผิวหนังบริเวณใบหน้าและหนังศีรษะจะมันมากขึ้น แบคทีเรียที่มีชื่อว่า ว่า P. acne จะเพิ่มมากขึ้นในบริเวณรูขุมขนบริเวณที่มีต่อมไขมันขนาดใหญ่ นอกจากนั้น P. acne จะกระตุ้นให้รูขุมขนบริเวณที่เป็นสิวมีการสร้างเคอลาติน (keratin) ที่ผิดปกติ ทำให้เกิดการอุดตันที่บริเวณรูขุมขนนั้น และยังเป็นตัวกระตุ้นให้สิวอักเสบมากขึ้นได้
นอกจากนี้ก็ยังมีปัจจัยอื่น ๆ ที่กระตุ้นให้สิวกำเริบ เช่น ความเครียด จะกระตุ้นให้ต่อมไขมันทำงานมากขึ้น, การนวด ขัด ถู ใบหน้าแรง ๆ การล้างหน้าด้วยสบู่บ่อยเกินไป การใช้ยาทาบางอย่าง เช่น สเตียรอยด์ เครื่องสำอางและสารเคมีบางอย่างอาจจะกระตุ้นให้เกิดสิวได้ หรือกลุ่มคนที่มีอาชีพที่ต้องสัมผัสกับอากาศร้อนเหงื่ออกมาก หรือทำงานในโรงงานที่ต้องสัมผัสกับน้ำมัน ก็ล้วนทำให้เป็นสิวได้มากขึ้นเช่นกัน
1) สิวอักเสบแบบต่าง ๆ ทั้งตุ่มแดง มีหนอง
2) สิวไม่อักเสบ ชนิดหัวเปิด (closed comedone) มีลักษณะเป็นเม็ดดำ ๆ นูนเล็กน้อย มีรูเปิด
ภาพประกอบ : Fitzpatrick's Dermatology In General Medicine (7th edition)
การรักษา
ในการรักษาสิว มีหลักที่สำคัญคือ ลดการสร้าง keratin บริเวณรูขุมขน ลดการทำงานของ ต่อมไขมัน ลดจำนวนของ เชื้อแบคทีเรีย P.acnes และ ลดกระบวนการอักเสบ
ที่อิสสวีร์คลินิค แพทย์ของเรามีการเลือกใช้ตัวยา และขั้นตอนการรักษาที่ยึดตามหลักการรักษานี้ ซึ่งเป็นมาตรฐานการรักษาที่พิสุจน์แล้วว่าได้ผลชัดเจน
Acne Clear Light Course Treatment
- 1. Cleansing หน้า
- 2.อบโอโซน เพื่อผลัดเซลล์ผิวเก่า
- 3.มาร์ค PHA เพื่อผลัดเซลล์ผิวใหม่
- 4.ใช้เครื่อง Phono ผลัดตัวยา เข้าสู่เซลล์ผิว
- 5.กดสิว
- 6.ฉายแสงด้วยเครื่อง LED ช่วยฆ่าเชื้อสิว ลดอาการอักเสบ รอยดำรอยแดง
- 7.มาร์ค Acne
ผู้ที่สนใจสามารถลงคอร์ส Light Face Laser ซึ่งเป็นเลเซอร์ คลื่นแสงความเข้มข้นสูง มีงานวิจัยรองรับมากมาย ว่าปลอดภัย ช่วยให้สิวหายได้เร็วขึ้น และช่วยลดการเกิดผลข้างเคียงเช่น รอยแดงสิว และหลุมสิวตามมาได้อีกด้วย
หลุมสิว
หลุมสิว เป็นผลข้างเคียงที่เกิดขึ้นได้ ทั้งจากสิวอักเสบ และสิวอุดตันหรือสิวไม่อักเสบ ซึ่งสามารถแบ่งหลุมสิว ได้ 4 ชนิด คือ
- Ice pick หลุมเล็ก ลึก ๆ แหลม ๆ
- Rolling scars หลุมตื้น ๆ กว้าง ๆ
- Boxcar scars หลุมกว้าง ๆ ขอบแผลตัด เป็นของคมชัดเจน
- Hypertrophic scars แผลเป็นนูน ซึ่งมักพบบริเวณลำตัว
รักษาหลุมสิว
**หมายเหตุ ผลการรักษาแตกต่างกันออกไปในแต่ละบุคคล การรักษาอาศัยวิจารณญาณแพทย์เป็นสำคัญ
การรักษาหลุมสิวที่ดีที่สุด ควรเริ่มตั้งแต่หลุมนั้นยังเป็นไม่มาก ทั้งนี้ความรุนแรงของหลุมสิว จะขึ้นกับหลายปัจจัย เช่น ตำแหน่งของสิว ความรุนแรง และระยะเวลาที่เป็นก่อนที่จะได้รับการรักษาที่ถูกต้อง โดยวิธีในการรักษาหลุมสิวจริง ๆ แล้วมีหลายชนิด และยังมีการวิจัยออกมาอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้เราสามารถแบ่งการรักษาแบบคร่าว ๆ ได้ 2 แบบ คือ การรักษาที่ทำให้เกิดแผลที่ผิวหนัง กับชนิดที่ไม่ทำให้เกิดแผล และวิธีการเสริมตำแหน่งที่เป็นหลุม
ซึ่งรายละเอียดแบบลึก ๆ อาจจะมากและเข้าใจได้ยาก หมอจึงขอยกตัวอย่างการรักษาของ issavee clinic บางส่วนสำหรับหลุมสิว ครับ
1. Scarlet Laser
scarlet laser เป็น laser ในกลุ่มของ Fractional resurfacting ซึ่งช่วยกระตุ้นการสร้าง collagen ใต้ชั้นผิวหนังทำให้หลุมสิวดีขึ้น และเป็นวิธีการกระตุ้นให้เกิดการสร้างผิวหนังขึ้นใหม่โดยไม่ต้องทำให้เกิดแผล ไม่ต้องพักฟื้น หลังทำจะมีอาการแดงเพียง 3-4 ชั่วโมง (ผู้สนใจ สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ในหัวข้อ Scarlet laser)
2. Chemical Peeling
เป็นการใช้กรดผลไม้ เพื่อผลัดเซลล์ผิวชั้นนอกออกและทำให้เกิดการกระตุ้นการสร้างผิวหนังขึ้นใหม่
3. Subcision
เป็นการทำลายผังผืด ที่ยึดติดบริเวณหลุมสิวกับผิวชั้นที่ลึกลงไป วิธีนี้ แพทย์จะใช้ฉีดยาชาเล็กน้อยบริเวณหลุมสิว และใช้เข็มเซาะ ตัดผังผืดบริเวณใต้หลุมนั้น ซึ่งวิธีนี้มักให้ผลดียิ่งขึ้นเมื่อทำร่วมกับการทำ Scarlet laser
4. โบทูลินุม & Filler
โบทูลินุม & Filler นิยมใช้ในการลดการเห็นหลุมสิวที่ชัดในบางตำแหน่งเช่น คาง ซึ่งเมื่อมีการทำงานของกล้ามเนื้อจะทำให้รอยหลุมสิวเห็นชัดเจน
อย่างไรก็ตาม ในการรักษาสิว และหลุมสิวนั้น ควรจะเริ่มรักษาตั้งแต่เริ่มต้นเป็นไม่มาก เพื่อป้องกันผลในระยะยาว ที่จะรักษาได้ยากมากขึ้น และการเริ่มรักษากับแพทย์ที่เชี่ยวชาญตั้งแต่ต้น จะยิ่งทำให้เราสามารถรักษาสภาพผิวที่สวยงามไว้ได้มากที่สุด
สำหรับท่านที่สนใจ คอร์สรักษาสิวของเราเริ่มต้นที่ครั้งละ 1,000 บาท มีแถมยา 4 ตัว และทำทรีทเมนท์ฆ่าเชื้อสิว บำรุงผิว 7 ขั้นตอน ดังนี้
- Cleansing หน้า
- อบโอโซน เพื่อผลัดเซลล์ผิวเก่า
- มาร์ค PHA เพื่อผลัดเซลล์ผิวใหม่
- ใช้เครื่อง Phono ผลัดตัวยา เข้าสู่เซลล์ผิว
- กดสิว
- ฉายแสงด้วยเครื่อง LED ช่วยฆ่าเชื้อสิว ลดอาการอักเสบ รอยดำรอยแดง (เพิ่มครั้งละ 900 บาท)
- มาร์ค Acne
โดยทั่วไปสิวจะเริ่มดีขึ้นเมื่อรักษาอย่างน้อย 3 สัปดาห์ ค่ะ
ติดต่อสอบถามได้ที่ Call center : 080-496-3264
หรือ LINE ID : @issavee ค่ะ ^^