ดูดไขมันต้นแขน
Before & After Gallery
Before & After Gallery
Before & After Gallery
ดูดไขมันต้นแขน คืออะไร
ดูดไขมันต้นแขน (Arm Liposuction) เป็นการกำจัดเซลล์ไขมันบริเวณต้นแขนอย่างถาวร เพราะเป็นการทำลายเซลล์ไขมันบริเวณนี้ไปเลย เปรียบเหมือนการทำลายโกดังเก็บไขมันในบริเวณนี้ไป ทำให้เมื่อร่างกายรับไขมันเพิ่มก็จะนำไขมันไปเก็บในบริเวณที่มีเซลล์ไขมันอยู่แล้วในบริเวณอื่นแทน ต้นแขนที่เราดูดไปแล้วจึงไม่กลับมาใหญ่เท่าเดิมอีก (ยกเว้นมีการสะสมไขมันในร่างกายเยอะขึ้นมาก ๆ ร่างกายถึงจะเริ่มสร้างเซลล์ไขมันในบริเวณที่ดูดไปแล้วขึ้นใหม่ ซึ่งบริเวณที่ดูดต้นแขนไปแล้วก็จะกลับมาขึ้นทีหลังสุด) ต่างกับวิธีการอื่นๆ ในการลดไขมัน เช่น การฉีดยา mesofat การใช้ความร้อน หรือ ความเย็น รวมไปถึงการลดน้ำหนักด้วยตนเอง ที่อาจจะเป็นการแค่ทำให้เซลล์ไขมันฟีบเล็กลงเท่านั้น เมื่อเวลาผ่านไปก็มีการสะสมไขมันกลับมาได้ง่าย
ไขมันบริเวณต้นแขน มักพบในผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย จากฮอร์โมนเอสโตรเจน ทำให้เกิดการสะสมไขมันบริเวณนี้มากเป็นพิเศษ รวมถึงกรรมพันธ์ก็ทำให้มีการสะสมไขมันช่วงต้นแขนมากผิดปกติได้เช่นกัน ซึ่งหมอมักพบว่าหลายท่านมีคุณแม่หรือพี่น้อง ที่ต้นแขนใหญ่ในลักษณะเหมือนๆ กัน
การดูดไขมัน ต้นแขน นมน้อย ปีกหลัง เหมาะกับท่านที่ไขมันในบริเวณนี้สะสมมากกว่าบริเวณอื่นอย่างชัดเจน แตกต่างจากร่างกายบริเวณอื่น และได้ลองลดด้วยวิธีต่าง ๆ เช่น ออกกำลังกาย คุมอาหารแล้วไม่ได้ผล หมอก็จะแนะนำการดูดไขมัน ซึ่งให้ผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจ รวดเร็ว และคุ้มค่าครับ
ดูดไขมันต้นแขน อย่าลืมพิจารณา ดูดไขมันนมน้อย ปีกหลัง ไปพร้อมกัน
การดูดไขมันต้นแขนเพียงอย่างเดียว อาจไม่ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด เพราะบริเวณรอบๆ ต้นแขน ทั้งนมน้อย ปีกหลัง ที่มีไขมันสะสมมากเกินไป ก็อาจจะทำให้รูปร่างส่วนบนไม่สมส่วนอยู่ได้ ยิ่งถ้ามีการดูดไขมันต้นแขนเพียงอย่างเดียว ก็อาจจะทำให้บริเวณนมน้อยและปีกหลัง เด่นชัดมากขึ้นกว่าเดิมได้ โดยปกติแล้วที่อิสสวีร์คลินิก หมอต้องมีการประเมินส่วนของนมน้อย และปีกหลังไปด้วยก่อนจะทำการดูดไขมัน เพราะการรักษาพร้อมกันจะทำได้ง่ายกว่า สามารถใช้แผลร่วมกันได้ และได้ผลลัพธ์ที่ดีมากกว่าครับ
ดูดไขมันนมน้อย (Axillary Breast Liposuction) เป็นการดูดไขมันส่วนที่เป็นก้อนใต้รักแร้ ซึ่งมีลักษณะเหมือนเป็นเต้านมอีกคู่ที่โตแยกออกมาจากเต้านมปกติ ในหลายๆ ท่าน ไขมันในส่วนนี้จะเห็นชัดมากขึ้นเมื่อเข้าสู่วัยรุ่น หรือผ่านการตั้งครรภ์ และมักจะเป็นปัญหาเวลาใส่ชุดชั้นใน หรือชุดราตรี รวมถึงในบางท่านที่เสริมหน้าอกอาจทำให้เห็นเนื้อส่วนนี้ชัดเจนขึ้น การดูดไขมันจึงช่วยแก้ปัญหานี้ได้ในหลายๆ ท่านเลยครับ ยกเว้นท่านที่เนื้อส่วนนี้เกินเยอะมากหรือผิวหนังหย่อนมากก็อาจจะต้องใช้การผ่าตัดร่วมด้วย การดูดไขมันนมน้อยสามารถทำร่วมไปกับการดูดไขมันหน้าแขน ใช้การลงแผลบริเวณใต้รักแร้ด้านหน้าครับ
ดูดไขมันปีกหลัง (Upper Back Liposuction) เป็นการกำจัดไขมันส่วนเกินที่เห็นได้ชัดเวลาที่ในเสื้อชั้นใน แล้วมี เนื้อส่วนเกินปลิ้นออกมาด้านบน ทำให้ดูลำตัวช่วงบนและช่วงแขนดูหนา และทำให้เกิดความไม่มั่นใจถ้าต้องใส่แขนกุด ซึ่งในการดูดไขมันแขน หมอจะประเมินการดูดบริเวณปีกหลังส่วนบนนี้ไปด้วย เพราะสามารถใช้แผลเดียวกับการดูดไขมันแขนด้านข้าง และท้องแขนได้เลยครับ
ดูดไขมันต้นแขน เหมาะกับใคร
1. ท่านที่รู้สึกต้นแขนใหญ่ ไม่สมส่วนกับร่างกาย
2. ไม่กล้าใส่เสื้อโชว์แขน เสื้อแขนกุด สายเดี่ยว
3. วางแขนข้างลำตัวแล้วต้นแขนใหญ่ รู้สึกต้นแขนปลิ้น
4. ลำตัวช่วงบนดูใหญ่ เพราะไขมันต้นแขน
5. ต้นแขนห้อย ไม่กระชับ จากไขมันสะสมมาก
6. พยายามลดต้นแขนด้วยวิธีอื่นๆ แล้วไม่ได้ผล
7. ลดน้ำหนัก ออกกำลังกายแล้ว ต้นแขนก็ยังไม่เล็กลง
8. ต้นแขนใหญ่ตั้งแต่เด็ก จากกรรมพันธ์ ไม่สมส่วนกับส่วนอื่น ๆ ของร่างกาย
ดูดไขมันนมน้อย เหมาะกับใคร
1. มีไขมันส่วนเกินบริเวณรักแร้ด้านหน้า ลักษณะเป็นเนื้อล้นใต้รักแร้ สามารถคลำได้เป็นก้อน
2. มีไขมันส่วนเกินนี้ แยกจากเนื้อหน้าอกอย่างชัดเจน จึงเรียกว่า นมน้อย
3. ในท่ามือเท้าเอว จะเห็นเนื้อส่วนนี้อยู่ชัดเจน
4. มีปัญหาเมื่อใส่ชุดแขนกุด แล้วไขมันส่วนรักแร้ด้านหน้าจนถึงชุดชั้นใน เกินให้เห็นอย่างชัดเจน
5. ท่านที่ต้องการดูดไขมันต้นแขนอยู่แล้ว และพบว่ามีไขมันบริเวณนี้เยอะ เนื่องจากการดูดพร้อมกันจะทำให้ดูสมส่วนยิ่งขึ้น
ดูดไขมันปีกหลัง เหมาะกับใคร
1. มีเนื้อที่ปลิ้นออกมาด้านหลังเมื่อใส่ชุดชั้นใน หรือที่เรียกว่า Bra Bulge (ไขมันระหว่างรักแร้ และชุดชั้นใน)
2. ไขมันส่วนนี้เรียกว่าปีกหลัง ซึ่งจะแยกเป็นปีกหลังด้านบน และด้านล่าง ส่วนมากจะมีแค่ด้านบน ซึ่งสามารถดูดพร้อมต้นแขนได้ จึงแนะนำให้ดูดพร้อมกัน
3. มีปัญหาเมื่อใส่แขนกุด หรือสายเดี่ยวแล้วมีไขมันส่วนเกินให้เห็นบริเวณรักแร้ด้านหลัง
4. ไขมันปีกหลังมักมีมากพร้อมกับต้นแขน ไม่ค่อยดูดเฉพาะตำแหน่งปีกหลังอย่างเดียว มักดูดคู่กับต้นแขน
5. ไขมันบริเวณนี้ดูดออกได้ยากกว่าบริเวณต้นแขน และนมน้อย เหมาะกับผู้ที่มีไขมันส่วนนี้หนากว่า 10 mm จึงต้องให้แพทย์ทำการประเมินก่อนดูด
เทคนิค 360 Arm Liposculpture ของอิสสวีร์ คืออะไร
“การดูดไขมันแขน” ของอิสสวีร์คลินิก เปรียบเทียบได้ กับการแกะสลักต้นแขนให้สวยงามในทุกมุมมอง ที่เรียกว่า “360 Arm liposculpture” ซึ่งจะแตกต่างจากการดูดไขมันแขนปกติ ที่จะเน้นดูดเฉพาะบริเวณท้องแขนเท่านั้น และไม่ได้เน้นความสวยงามในภาพรวม
เทคนิคนี้ จะเน้นการดูดไขมัน ทั้งหลังแขน ต้นแขนด้านใน ใต้หัวไหล่ รวมไปถึงต้นแขนด้านหน้าในบางท่าน ควบคู่ไปกับการดูดไขมันบริเวณรอบ ๆ แขนด้วย ทั้ง ปีกหลัง และ นมน้อย และยังต้องคำนึงถึงตำแหน่งกล้ามเนื้อต่าง ๆ ในท่าทางต่างด้วย ทั้งการยกแขน วางแขนข้างลำตัว การบิดแขน เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมชาติ และสวยงามมากที่สุด
“ การดูดแบบปกติ จะเน้นเฉพาะบริเวณท้องแขนเท่านั้น แต่ในเทคนิค 360 Arm Liposculpture
จะดูดรวมไปถึงบริเวณใต้รักแร้ ที่อาจจะเชื่อมไปยังบริเวณปีกหลังด้วย ”
“ บริเวณกระเปาะใต้หัวไหล่เป็นอีกตำแหน่งที่มักจะเหลือ หากทำการดูดแบบปกติ ซึ่งในเทคนิค 360
จะเน้นการดูดบริเวณนี้ให้รับกับหัวไหล่ ทำให้มุมด้านข้างแขนดูสวยได้รูปธรรมชาติ ”
“ เมื่อมองในด้านข้าง จะเห็นว่า ต้นแขนด้านหน้า และด้านหลัง ลดลงอย่างเป็นสัดส่วนที่ธรรมชาติมากขึ้น
ในบางท่านจะต้องมีการดูดนมน้อย ร่วมกับต้นแขนด้านหน้าส่วนบนด้วย”
มีปัญหาเฉพาะต้นแขนอย่างเดียว
ตัวอย่างการออกแบบการดูดไขมัน เทคนิค 360 Arm Liposculpture ในท่านที่มีปัญหาเฉพาะบริเวณต้นแขนเป็นหลัก และมีปัญหาใหญ่ บริเวณใต้หัวไหล่ และท้องแขน เมื่อวางแขนข้างลำตัวจะมีเนื้อไขมันปลิ้นปริมาณมาก รวมถึงเมื่อมองจากด้านหลังจะพบว่าดูลำตัวใหญ่กว่าปกติ เพราะไขมันช่วงท้องแขนด้านบนที่เยอะเป็นพิเศษ จึงจำเป็นต้องดูดให้ครบทุกมุมที่มีปัญหา
ในการดูดนอกจากจะพิจารณาในภาพรวมแล้ว ที่อิสสวีร์ เรายังดูละเอียดถึงรายละเอียดเล็ก ๆ เช่น ตำแหน่งกล้ามเนื้อหลังแขน รอยต่อช่วงหัวไหล่ ตำแหน่งผังผืด รอยบุ๋มต่าง ๆ เพราะในการดูดไขมันจะต้องเน้นให้เกิดความเรียบเนียนเป็นธรรมชาติให้มากที่สุด และต้องตรงกับความต้องการของคนไข้ด้วย เช่น ต้องการแขนที่ดูเล็กแต่ไม่มีกล้าม หรืออยากให้เห็นกล้ามเนื้อที่ชัดขึ้นเป็นต้น
มีปัญหาบริเวณต้นแขน ร่วมกับนมน้อย และต้นแขนด้านหน้า
ในท่านที่ต้นแขนใหญ่ และมีไขมันบริเวณนมน้อยร่วมด้วย จะเห็นปัญหานี้ชัดเมื่อใส่ชุดชั้นใน หรือชุดราตรี การดูดนมน้อยไปพร้อมกับการดูดไขมันต้นแขนจะให้ผลลัพธ์ที่ดีกว่า นอกจากนี้การลงแผลในตำแหน่งรักแร้ด้านหน้า เพื่อดูดนมน้อย ยังสามารถดูดบริเวณต้นแขนด้านหน้าส่วนบน ที่มักมีปัญหาร่วมกันได้ด้วยในครั้งเดียว (ทั้งนี้ขึ้นกับลักษณะไขมันของแต่ละท่าน) แต่ในบางท่าน เช่นท่านที่น้ำหนักตัวมากๆ หรือมีผิวที่หย่อนคล้อย อาจจะต้องพิจารณาใช้การผ่าตัดเย็บผิวหนังบริเวณนมน้อยร่วมด้วยครับ
มีปัญหาบริเวณต้นแขน ร่วมกับปีกหลัง
ปีกหลัง เป็นปัญหาที่ร่วมกับต้นแขนด้านหลัง หลายท่านมีอาการที่เรียกว่า บลาปลิ้น (Bra Bulge) หากดูดเพียงต้นแขนอย่างเดียว ก็จะยังทำให้เกิดอาการนี้อยู่ และบางท่านอาจมีอาการเด่นชัดขึ้นด้วยได้ และจะยังไม่สามารถใส่เสื้อแขนกุดได้ ด้วยเทคนิค 360 arm liposculpure เราสามารถดูดบริเวณต้นแขนช่วงบน ด้านหลัง และปีกหลังได้พร้อมกัน โดยไม่ต้องลงแผลเพิ่ม จึงแนะนำให้ท่านที่มีปัญหาปีกหลัง ทำการดูดไขมันไปพร้อมกัน
ฮอร์โมน กรรมพันธ์ เพศ อายุ การตั้งครรภ์ และพฤติกรรมต่าง ๆ ทำให้การสะสมไขมันบริเวณต้นแขน และลำตัวช่วงบนของแต่ละท่านแตกต่างกันไป การวางแผนดูดไขมันให้เหมาะสมกับแต่ละคน จึงเป็นสิ่งที่สำคัญมาก
ในการดูดไขมันที่อิสสวีร์คลินิก จะมีการวางแผนการดูดอย่างละเอียดด้วยประสบการณ์ของแพทย์ ว่าควรดูดตำแหน่งใดบ้าง ควรเว้นการดูดในตำแหน่งใด เพื่อไม่เห็นลายกล้ามเนื้อมากเกินไป การสังเกตตำแหน่งผังผืดต่าง ๆ และเลือกบริเวณที่ต้องดูดเยอะเป็นพิเศษ รวมถึงในขั้นตอนการดูดไขมัน ที่จะต้องคำนึงถึงภาพรวมหลังดูดในมุมต่างๆ ทั้งวางแขนข้างลำตัว ยกแขน บิดแขน เป็นต้น
ในชีวิตประจำวัน การใส่ชุดที่ต้องเปิดต้นแขน มักจะรวมไปถึงบริเวณนมน้อย และปีกหลังด้วย ดังนั้นการทำในสองตำแหน่งนี้ควบคู่ไปกับการดูดไขมันต้นแขน จึงเป็นสิ่งสำคัญด้วยเช่นกัน เพื่อผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจมากที่สุด
จากประสบการณ์ของหมอมากกว่า 10 ปีทีเคยใช้เครื่องมาทุกประเภทแล้ว
เครื่อง ultra-Z ซึ่งเป็นเทคโนโลยี vaser ultrasound assisted เป็นเครื่องที่สลายไขมันได้ดี
ทีสุด ได้ปริมาณมาก โดยไม่ทําให้ผิวหนังเกิดอาการบาดเจ็บ และเกิดผลข้างเคียงน้อยที่สุด
ในการดูดไขมัน ปัจจุบันเครื่องมือที่ช่วยในการสลายไขมัน มีให้เลือกหลายชนิด ทั้งที่เป็นคลื่นอัลตร้าซาวน์ พลังงานวิทยุ พลังน้ำ ซึ่งมีข้อดี ข้อเสียที่แตกต่างกันไป แต่จากประสบการณ์ของแพทย์ที่อิสสวีร์คลินิก เราเลือกใช้ Ultra-Z เทคโนโลยีจากเกาหลี เนื่องจากสามารถสลายไขมันได้ดีที่สุดเมื่อเทียบกับเครื่องมืออื่น ๆ (ความเห็นของทีมแพทย์อิสสวีร์) และเกิดผลข้างเคียงได้ยาก สามารถช่วยให้แพทย์ทำการรักษาได้อย่างมีประสิทธิภาพ
การใช้เครื่องมือที่เหมาะสม ควบคู่กับประสบการณ์ของแพทย์เป็นสิ่งที่สำคัญ เพราะการดูดไขมัน เครื่องมือมีส่วนช่วยเพียงเล็กน้อย การวางแผนการดูด การเลือกตำแหน่งการดูด ตำแหน่งที่ต้องดูดมาก ดูดน้อย ดูดอย่างเหมาะสมเป็นสิ่งที่สำคัญกว่า ที่จะทำให้ผลการรักษาออกมาดีที่สุดครับ
Key technique สุดท้าย การเกลี่ยปรับระดับไขมันที่ตกค้างให้เรียบเนียนไร้รอยต่อไล่ระดับออกไป ระหว่างจุดที่ดูดและไม่ได้ดูด
ไขมันต้นแขนในผู้หญิงที่ต้นแขนไม่สมส่วน มักจะมีความหนาประมาณ 20-40 mm ซึ่งในการดูดจะทำให้ไขมันบางลงได้มาก 70-80% ทั้งนี้ที่อิสสวีร์คลินิก เราไม่ได้เน้นการดูดให้ไขมันบางที่สุด เพราะไขมันที่บางเกินไป จะทำให้ผิวหนังดูเป็นคลื่น เห็นร่องกล้ามเนื้อ และดูไม่เป็นธรรมชาติ แต่ในการดูดที่ดี คือการดูดให้เหลือไขมันในปริมาณที่เหมาะสมดูสมส่วน เป็นธรรมชาติ เรียบเนียน และยังต้องมีการวางแผนที่ดี มีการเกลี่ยไขมัน การตัดชั้นผังผืด และเทคนิคพิเศษเฉพาะที่อิสสวีร์ ที่ช่วยให้ต้นแขนออกมาเรียบเนียน เป็นธรรมชาติครับ
ในการดูดไขมันบริเวณต้นแขน จะลงแผลบริเวณข้อศอก และ บริเวณรักแร้ ซึ่งทั้งสองบริเวณจะซ่อนไว้บริเวณรอยพับ เมื่อวางแขนลงข้างลำตัวก็จะมองไม่เห็น ขนาดแผลทั้งสองบริเวณจะกว้างประมาณ 0.5 ซม. รอยจะชัดในช่วง 3-6 เดือนแรก ก่อนจะค่อย ๆ จางลงจนแทบมองไม่เห็นในช่วง 1 ปี
สำหรับท่านที่มีปัญหาเป็นแผลเป็นง่าย อาจจะเห็นแผลได้ชัดมากกว่า แต่การประสบการณ์ของหมอที่อิสสวีร์คลินิก แทบไม่พบปัญหาแผลเป็นบริเวณนี้ การหายของแผลค่อนข้างดี
คำถามที่พบบ่อย ก่อนดูดไขมันต้นแขน นมน้อย และปีกหลัง
หมอมักจะได้คำถามคล้าย ๆ กันจากหลายท่าน เกี่ยวกับการดูดไขมันต้นแขน จึงขอให้เป็นข้อมูลไว้บางส่วนครับ
ต้องดมยาสลบหรือไม่
คำตอบ : ไม่จำเป็นครับ สามารถฉีดยาชาทำได้ ทำเสร็จกลับบ้านได้เลย (ช่วยลดความเสี่ยงจากการดมยาสลบ) แต่ในท่านที่กังวลเรื่องความเจ็บสามารถเลือกการฉีดยานอนหลับ การใช้ยาสูดลดความเจ็บปวด โดยปรึกษากับแพทย์เพิ่มเติมครับ
ดูดไขมันต้นแขนเจ็บหรือเปล่า
คำตอบ : ดูดไขมันต้นแขนความเจ็บ อยู่ที่ประมาณ 3 เต็ม 10 เจ็บช่วงฉีดยาชา ข้างละประมาณ 10 นาทีเท่านั้น หลังจากนั้นจะไม่เจ็บอีก สำหรับหลังทำ 1 วันจะเริ่มมีอาการระบมเล็กน้อย เมื่อยกแขน แต่ยังสามารถใช้งานชีวิตประจำวันได้ครับ
ใช้เวลาดูดนานแค่ไหน
คำตอบ : สำหรับดูดไขมันแขนจะใช้เวลาข้างละประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง ใช้เวลารวมสองข้าง ประมาณ 3 ชั่วโมงครับ
ดูดได้เยอะแค่ไหน
คำตอบ : เนื่องจากไขมันแต่ละท่านไม่เหมือนกัน หมอจึงไม่ได้คำนึงถึงปริมาณที่ดูดได้ แต่คำนึงรูปทรงความสวยงามหลังดูดมากกว่า แต่หมอจะพยายามดูดให้มากที่สุด โดยไม่ทำให้แขนผิดรูปทรงหรือทำให้เกิดผิวเป็นคลื่น ดังนั้นในแต่ละท่านจึงดูดได้ไม่เท่ากัน แต่รูปทรงที่ได้จะดีขึ้นในระดับที่พอใจครับ ซึ่งโดยเฉลี่ยแล้วไขมันจะดูดได้อย่างน้อย 100 cc (ในท่านที่รูปร่างเล็ก) - 250 cc ต่อข้างครับ
หลังทำแล้วเล็กเลยหรือเปล่า
คำตอบ : หลังทำจะเห็นผลทันที แต่จะเห็นผลดีที่สุดหลังยุบบวมแล้ว คือ 3-6 เดือนหลังทำครับ
หลังดูดไขมัน จะบวมมากแค่ไหน
คำตอบ : อาการบวมจะมากที่สุดในช่วง 2 สัปดาห์แรก แต่จะไม่ใหญ่กว่าแขนก่อนดูด และอาการบวมจะค่อยๆ ลดลง จนเห็นผลประมาณ 80% ในช่วง 3 เดือน และเกือบ 100% ในช่วง 6 เดือนครับ
ดูดไขมันไปแล้ว อยู่ได้นานแค่ไหน
คำตอบ : หลังดูดไขมัน ผลลัพธ์คงอยู่ถาวร หากน้ำหนักคงที่ครับ ยกเว้นในกรณีที่น้ำหนักเพิ่มขึ้นมากๆ อาจจะมีใหญ่ขึ้นได้ แต่จะไม่ใหญ่ไปกว่าก่อนดูดครับ หรือไขมันอาจจะไปสะสมที่อื่นก่อนที่จะกลับมาที่แขนครับ
หลังดูดไขมัน ต้องพักฟื้นนานแค่ไหน
คำตอบ : หลังทำสามารถใช้ชีวิตปกติได้เลยครับ แต่จะมีน้ำซึมจากแผลในช่วง 3 วันแรก จึงแนะนำหากสามารถหยุดงานในช่วง 3 วันแรกได้จะดีกว่า และต้องใส่ชุดกระชับตลอดในช่วง 1 เดือนแรกด้วยครับ
ดูดไปแล้วผิวจะเป็นคลื่นไหม
คำตอบ : ถ้าอายุน้อย ผิวหนังเต่งตึงดี และไม่ดูดมากจนเกินไป โอกาสเกิดเป็นคลื่นน้อยมากครับ
ทำไมคิวดูดไขมันต้นแขนถึงมีน้อย
คำตอบ : ที่อิสสวีร์ เรารับเคสดูดไขมัน เพียงวันละ 1-2 ท่านต่อหมอ 1 คนเท่านั้นครับ เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพมากที่สุดครับ
บทความโดย
หมอบาส / นพ.ณัฐพล หวังศิริเวช
แพทย์ชำนาญการดูดไขมัน อิสสวีร์คลินิก