ดูดไขมันหน้าท้อง: ทางเลือกเพื่อรูปร่างที่สมส่วนและความมั่นใจ
ดูดไขมันหน้าท้อง ที่ไหนดี? คลินิกที่ดี ที่ปลอดภัยควรมีอะไรบ้าง?
-ดูดไขมันหน้าท้องคืออะไร
-ดูดไขมันหน้าท้องด้วยเทคนิค 360 FTL
-ดูดไขมันหน้าท้อง เจ็บไหม
-ดูดไขมันหน้าท้อง ที่ไหนดี และคลินิกที่ดีที่ปลอดภัยควรมีอะไรบ้าง
-ดูดไขมันหน้าท้อง จำเป็นต้องวางยาสลบไหม
-วิธีการเตรียมตัวก่อนดูดไขมันหน้าท้อง
-วิธีการดูแลหลังจากดูดไขมันหน้าท้อง
-รีวิวดูดไขมันหน้าท้อง
-คำถามพบบ่อย ดูดไขมันหน้าท้อง
การดูดไขมันหน้าท้องเป็นหนึ่งในวิธีการปรับรูปร่างที่ได้รับความนิยมอย่างสูงในปัจจุบัน โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่ต้องการกำจัดไขมันส่วนเกินบริเวณหน้าท้องที่ไม่สามารถลดได้ด้วยการออกกำลังกายหรือควบคุมอาหารเพียงอย่างเดียว บทความนี้จะให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับการดูดไขมันหน้าท้อง ตั้งแต่ปัจจัยในการพิจารณาเลือกดูดไขมันหน้าท้องที่ไหนดี และกระบวนการดูดไขมันหน้าท้องที่ปลอดภัยไปจนถึงการดูแลหลังการรักษา
ดูดไขมันหน้าท้อง ที่ไหนดี? คลินิกที่ดีที่ปลอดภัยควรมีอะไรบ้าง? ซึ่งการจะเลือกคลินิกที่จะดูดไขมันนั้นถือเป็นเรื่องที่สำคัญครับ เพราะการดูดไขมันถือเป็นหัตถการที่ต้องใช้ความชำนาญของแพทย์ และความปลอดภัยของคลินิกเป็นส่วนสำคัญ เพื่อความปลอดภัย และผลลัพธ์ที่ดีที่สุดครับ
ดูดไขมันหน้าท้อง คือ การลดไขมันส่วนเกินบริเวณหน้าท้อง ซึ่งการดูดไขมันหน้าท้องนั้นต้องใช้ความชำนาญของแพทย์ค่อนข้างมาก เนื่องจากบริเวณหน้าท้องมีความแตกต่างจากส่วนอื่น เพราะไม่มีกระดูกมารองรับบริเวณดังกล่าว การดูดไขมันหน้าท้องจึงจำเป็นต้องใช้แพทย์ประสบการณ์สูงเพื่อความปลอดภัยครับ
โดยตำแหน่งการดูดไขมันหน้าท้องที่เป็นที่นิยมในปัจจุบันนั้นแบ่งเป็น 4 จุดหลัก คือ ด้านบนเหนือสะดือ ด้านล่างใต้สะดือ เอวหน้า และเอวหลัง ซึ่งการดูดไชมันหน้าท้องถือเป็นส่วนที่ได้รับนิยมในปัจจุบัน ซึ่งในปัจจุบันนิยมการดูดไขมันหน้าท้อง ร่วมกันการผ่าตัดเย็บผนังหน้าท้อง สำหรับคนที่มีปัญหาเรื่องความหย่อนคล้อยของหนังหน้าท้องร่วมด้วยครับ
เทคนิค 360 FTL (FribroSonic Triple Layer Liposuction) เป็นวิธีการดูดไขมันที่ทันสมัย ซึ่งใช้ในอิสสวีร์คลินิก โดยมีจุดเด่นดังนี้:
1.แบ่งการดูดไขมันเป็น 3 ระดับ: ชั้นลึก ชั้นกลาง และชั้นตื้น
2.เน้นการสร้างส่วนเว้า ส่วนโค้ง ร่องแสง และเงาตามสรีระของร่างกาย
3.ใช้เทคนิคการตัดสลายพังผืด เพื่อให้ผิวเรียบเนียนเป็นธรรมชาติ
4.ผสมผสานศาสตร์ ศิลป์ และเทคโนโลยีทันสมัยเข้าด้วยกัน
ความรู้สึกเจ็บปวดในระหว่างการดูดไขมันหน้าท้องเป็นประสบการณ์ที่แตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล จากการสังเกตทางคลินิก ผู้ป่วยส่วนใหญ่รายงานว่ารู้สึกไม่สบายเพียงเล็กน้อยระหว่างกระบวนการ อย่างไรก็ตาม มีผู้ป่วยบางรายที่อาจประสบกับความเจ็บปวดในระดับที่สูงกว่า โดยทั่วไป ความไม่สบายที่รู้สึกมักจำกัดอยู่ในช่วงการฉีดยาชาเฉพาะที่ ซึ่งใช้เวลาประมาณ 5-10 นาที เมื่อสอบถามผู้ป่วย ส่วนใหญ่ระบุว่าระดับความเจ็บปวดอยู่ในเกณฑ์ที่สามารถทนได้
การระงับความเจ็บโดยการใช้ยาชาอย่างมีประสิทธิภาพ เป็นขั้นตอนที่ต้องอาศัยความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ของแพทย์ผู้ทำหัตถการ นอกเหนือจากการใช้ยาชาเฉพาะที่ ทางคลินิกของเรายังมีทางเลือกเสริมในการจัดการความเจ็บปวด โดยใช้ยาสูดลดปวด methoxyflurane ซึ่งช่วยบรรเทาความไม่สบายระหว่างกระบวนการดูดไขมันหน้าท้องได้อย่างมีประสิทธิภาพ การผสมผสานวิธีการเหล่านี้ช่วยให้เราสามารถให้การรักษาที่มีความปลอดภัยและลดความเจ็บปวดแก่ผู้ป่วยได้
สำหรับการดูดไขมันหน้า
1.ใบอนุญาตให้ประกอบกิจการสถานพยาบาล
การเลือกคลินิกที่ดี ที่มีมาตรฐานสำหรับการดูดไขมันหน้าท้อง อย่างแรกที่ควรเช็คคือ ใบอนุญาตให้ประกอบกิจการสถานพยาบาล ซึ่งสามารถค้นหาโดยเลขที่ใบอนุญาต หรือชื่อสถานพยาบาลผ่านทางเว็บไซต์ของกระทรวงสาธารณสุข สามารถตรวจสอบได้ที่ https://hosp.hss.moph.go.th/
นอกจากนี้เราควรดูความสะอาดภายในคลินิก เนื่องจากการทำหัตถการที่มีการเปิดแผล ความสะอาดถือเป็นเรื่องที่ต้องคำนึงถึงเป็นอันดับต้นๆครับ
2.แพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญด้านการดูดการไขมัน
การเลือกแพทย์สำหรับการดูดไขมันหน้าท้องถือเป็นเรื่องที่สำคัญมาก การดูดไขมันหน้าท้องถือเป็นการทำหัตถการที่ต้องอาศัยความชำนาญ และความเชี่ยวชาญของแพทย์ ซึ่งเราสามารถนำชื่อจริงและนามสกุลของแพทย์ได้ผ่านทางเว็บไซต์แพทยสภา ซึ่งสามารถตรวจสอบได้ที่ https://checkmd.tmc.or.th/
3.ห้องผ่าตัดที่ได้มาตรฐาน
ห้องผ่าตัดถือเป็นอีกเรื่องที่ควรคำนึงถึงก่อนตัดสินใจทำการดูดไขมันหน้าท้อง ซึ่งสำหรับห้องผ่าตัดของอิสสวีร์คลินิก จะมีการแยกโซนห้องผ่าตัดออกมาอย่างชัดเจน ซึ่งก่อนที่คนไข้ หรือบุคลกรของคลินิกจะเข้าห้องผ่าตัดต้องมีการเปลี่ยนชุด เปลี่ยนรองเท้า สวมหมวก และใส่หน้ากากอนามัยก่อนเข้าผ้องผ่าตัด นอกจากห้องผ่าตัดสำหรับการดูดไขมันหน้าท้องของอิสสวีร์ยังให้ความสำคัญในเรื่องห้องผ่าตัดปลอดเชื้อ ที่ใช้ระบบ positive pressure ที่จะช่วยในเรื่องการลดฝุ่น และเชื้อโรคภายในห้องด้วยครับ
การดูดไขมันหน้าท้องคนไข้สามารถเลือกได้เองว่าจะใช้วิธีการดมยา การใช้ยาชา หรือการใช้ตัว Menthoxyflurane ยาสูดลดปวดระหว่างทำ ซึ่งระดับความเจ็บในการดูดไขมันหน้าท้องเป็นเรื่องส่วนบุคคล บางคนแค่ใช้ยาชา หรือ Menthoxyflurane ก็เพียงพอต่อการบรรเทาความเจ็บระหว่างทำแล้ว แต่ในบางคนอาจมีอาการกลัวหรือกังวลร่วมด้วย ซึ่งการเลือกใช้การดมยาก็เป็นวิธีที่ดีที่จะทำให้คนไข้ลดอาการเจ็บ หรือกังวลขณะผ่าตัดได้ครับ ซึ่งการดมยาสลบของอิสสวีร์จะใช้วิสัญญีแพทย์ในการดมยาเท่านั้น การดูแลจะเป็นแบบ 1:1 ซึ่งวิสัญญีแพทย์จะดูแลคนไข้ตลอดการผ่าตัด เพื่อให้คนไข้ปลอดภัยที่สุดครับ
การเตรียมตัวที่ควรปฏิบัติก่อนดูดไขมันหน้าท้อง
1.งดแอสไพรินและยายาแก้อักเสบที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด 1 สัปดาห์ก่อนดูดไขมันหน้าท้อง
2.ควรรับประทานอาหารอ่อนก่อนเข้าดูดไขมันหน้าท้อง
3.งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เนื่องจากเป็นการเพิ่มโอกาสเสี่ยงในการติดเชื่อและการแข็งตัวของเลือด
4.ควรใส่เสื้อผ้าที่สวมใส่สบายไม่รัดรูป
5.งดยาและอาหารเสริม รวมไปถึงยาลดน้ำหนัก ยานอนหลับ และยาสมุนไพรก่อนดูดไขมันหน้าท้อง 2 สัปดาห์ หากมียาที่ทานเป็นประจำต้องแจ้งให้แพทย์ทราบก่อน
6.เลี่ยงการขับรถ ควรเตรียมคนดูแลภายในวันผ่าตัด
7.เตรียมร่างกาย ห้ามอดอาหาร ห้ามลดน้ำหนัก 2 สัปดาห์ก่อนเข้ารับการดูดไขมันหน้าท้อง
8.งดการแต่งหน้าและการทาเล็บ
ข้อปฏิบัติที่ควรทำหลังจากดูดไขมันหน้าท้อง
1.ช่วง 1-3 วันแรก แนะนำให้ประคบเย็นให้ได้มากที่สุด หลังจาก 3 วัน ให้สลับมาเป็นการประคบอุ่นแทนครับ
2.ในช่วง 1 เดือนแรก แนะนำให้ใส่ชุดกระชับตลอด 24 ชม. ครับ สามารถถอดตอนอาบน้ำ หรือสามารถถอดได้ถ้าหากรู้สึกแน่น แต่ควรใส่ชุดกระชับกลับภายใน 30 - 60 นาทีครับ หลังจากนั้น3.เดือนที่ 2-3 เหลือวันละ 12 ชม. แนะนำให้ใส่ตอนที่ต้องขยับตัวเยอะๆครับ
4.งดรับประทานอาหารปรุงไม่สุก อาหารหมักดอง อาหารรสจัดหรืออาหารที่เสี่ยงทำให้เกิดอาการท้องเสีย 2 สัปดาห์
5.งดสูบบุหรี่ ดื่มแอลกอฮอล์ อย่างน้อย 2 สัปดาห์
6.งดออกกำลังกายแบบหนักๆ 1 เดือน
1.ดูดไขมันหน้าท้อง ช่วยในการลดน้ำหนักไหม
แพทย์ : การดูดไขมันหน้าท้อง ไม่ใช่การลดน้ำหนัก การดูดไขมันหน้าท้องเป็นเพียงการปรับสัดส่วนไขมันส่วนเกิน ให้มีขนาดสมดุลกับส่วนอื่น ให้มีทรวดทรง หรือหน้าท้องแบนราบมากขึ้น เนื่องจากเซลล์ไขมันและเซลล์กล้ามเนื้อมีขนาดมวลที่ต่างกันมาก ในน้ำหนัก 1 กิโลกรัมเท่ากัน เซลล์กล้ามเนื้ออาจมีขนาดแค่ชิ้นสเต็ก 1 ชิ้น แต่เซลล์ไขมันอาจมีขนาดที่ใหญ่มากๆ เพราะฉะนั้นการดูดไขมันหน้าไม่ช่วยในการลดน้ำหนักครับ
2.ดูดไขมันแล้วจะกลับมาอ้วนไหม
แพทย์ : ไขมันหน้าท้องจะแบ่งเป็น 2 ชุด คือไขมันในช่องท้องซึ่งอยู่ภายใน และไขมันใต้ผิวหนังซึ่งอยู่ภายนอก ซึ่งการดูดไขมันหน้าท้องจะเป็นการดูดไขมันใต้ผิวหนังซึ่งอยู่ภายนอกออกมา ซึ่งถ้าเรากลับมาอ้วนไขมันในช่องท้องก็สามารถป่องออกมาได้ ซึ่งไขมันในช่องท้องสามารถลดได้ด้วยการออกกำลังกาย หรือคุมอาหาร การดูดไขมันเป็นเพียงการปรับสัดส่วนภายนอก ทำให้เราแต่งตัวได้อยากมั่นใจมากขึ้นครัย
3.ดูดไขมันหน้าท้องอันตรายไหม
แพทย์ : การดูดไขมันหน้าท้องถ้าอยากทำให้ปลอดภัย อันดับแรกหมอต้องเชี่ยวชาญ ถ้าไปหาหมอที่ไม่เชียวชาญ เห็นว่าพุงแล้วดูดไขมันออกหมด อันนี้คืออันตรายมากๆ เพราะอาจเกิดอันตรายกับอวัยวะภายในได้ แต่ในปัจจุบันการดูดไขมันหน้าท้องมีเทคโนโลยีที่เข้ามาช่วย ไม่ว่าจะเป็นการใช้คลื่นอัลตร้าซาวน์ละลายไขมันก่อนดูดออกมา ทำให้การดูดไขมันหน้าท้องปลอดภัยขึ้น ถ้าได้หมอที่เชี่ยวชาญด้านการดูดไขมันหน้าท้องก็แทบไม่ต้องกังวล เพราะปลอดภัยแน่นอนครับ
4.ดูดไขมันหน้าท้องที่อิสสวีร์มีแผลกี่จุด
แพทย์ : การดูดไขมันหน้าท้องที่อิสสวีร์จะมีการลงแผลใต้บิกินี่ไลน์ทั้งหมด 2 จุดบริเวณทางซ้ายและทางขวา แต่ถ้าต้องการทำเซ็กซี่ไลน์เพิ่มต้องมีการเปิดแผลที่บริเวณสะดือเพิ่มอีก 1 แผลครับ
5.ดูดไขมันหน้าท้องใส่ชุดกระชับกี่วัน?
แพทย์ : ในช่วง 1 เดือนแรก แนะนำให้ใส่ชุดกระชับตลอด 24 ชั่วโมงครับ สามารถถอดตอนอาบน้ำ หรือสามารถถอดพักได้ แต่ต้องกลับมาใส่ชุดกระชับภายใน 30 - 60 นาทีครับ หลังจาก 2 - 3 เดือน สามารถลดเหลือวันละ 12 ชั่วโมงได้ครับ แนะนำให้ใส่ตอนที่ขยับตัวเยอะๆครับ
6.ดูดไขมันหน้าท้อง ลืมใช้ชุดกระชับเป็นอะไรไหม?
แพทย์ : การใส่ชุดกระชับถือเป็นเรื่องที่สำคัญและจำเป็นมากในการดูดไขมันหน้าท้อง เพราะถ้าไม่ใส่ชุดกระชับตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัดอาจก่อให้เกิดผลกระทบตามมาได้ครับ ไม่ว่าจะเป็นการได้รูปร่างหรือสัดส่วนที่ไม่ได้เป็นไปตามความต้องการ หรืออาจหนักไปถึงการติดเชื้อหลังผ่าตัดได้เลยครับ เพราะฉะนั้นอย่าลืมใส่ชุดกระชับกันนะครับ
7.ดูดไขมันหน้าท้องดมยาสลบได้ไหม?
แพทย์ : การดูดไขมันหน้าท้องสามารถดมยาสลบได้ครับ สำหรับคนที่อาจมีอาการกังวลว่ากลับเจ็บขณะทำ ซึ่งทางอิสสวีร์คลินิกมีการใช้วิสัญญีแพทย์ที่เชี่ยวชาญด้านดมยาสลบเฉพาะทาง ที่จะดูแลคนไข้ตั้งแต่การเตรียมตัวดมยาจนถึงตอนที่คนไข้ตื่น ซึ่งจะดูแลคนไข้แบบใกล้ชิดแบบ 1 ต่อ 1 ซึ่งคนไข้สามารถวางใจเรื่องความปลอดภัยได้เลยครับ แต่คนส่วนใหญ่แค่ใช้การตัวยาสูดลดปวด Menthoxyflurane ก็เพียงพอแล้วครับ
8.ดูดไขมันหน้าท้อง + เอวเอส อยู่ได้ถาวรไหม?
แพทย์ : การดูดไขมันหน้าท้อง+เอวเอสเป็นการนำไขมันบริเวณหน้าท้องชั้นนอกออก ซึ่งการดูดไขมันหน้าท้องเป็นการนำไขมันออกอย่างถาวรครับ แต่ไขมันบริเวณช่องท้องของเราจะมีทั้งหมด 2 ส่วนครับ คือไขมันในช่องท้องซึ่งอยู่ภายใน และไขมันใต้ผิวหนังซึ่งอยู่ภายนอก ซึ่งการดูดไขมันเป็นการนำไขมันใต้ผิวหนัง หรือไขมันชั้นนอกออก ดังนั้นถ้าเราอ้วนขึ้นไขมันในช่องท้องที่อยู่ภายในก็จะปล่องออกมาครับ ซึ่งไขมันบริเวณดังกล่าวไม่สามารถใช้การดูดไขมันออกมาได้ แต่สามารถลดได้ด้วยวิธีการลดน้ำหนัก หรือคุมอาหารครับ ดังนั้นถ้าดูดไขมันหน้าท้องร่วมกันการดูแลตัวเองให้น้ำหนักคงที่จะทำให้หน้าท้องสวยอยู่กับเราได้อย่างถาวรแน่นอนครับ