รู้ลึก รู้จริง เกี่ยวกับโบท็อกซ์(BOTOX)
“โบท็อกซ์” เพื่อความงามนั้นกำลังได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นเพศไหนหรืออายุเท่าไร เพราะคุณสมบัติสำคัญของโบท็อกซ์ที่ช่วย ย้อนวัยให้ผิวกลับมาดูอ่อนเยาว์ได้
โบท็อกซ์ (Botox) เป็นชื่อของเครื่องหมายการค้าของสาร Botulinum Toxin ซึ่งเป็นสารประกอบที่สกัดจากโปรตีนบริสุทธิ์ในแบคทีเรียชนิดหนึ่งโดยโบท๊อกซ์ จะเข้าไปทำปฏิกิริยากับบริเวณปลายประสาทที่เชื่อมต่อกับกล้ามเนื้อบริเวณที่มี การหดตัวกล้ามเนื้อส่วนนั้นจะค่อยๆคลายตัวและเล็กลง ริ้วรอยบริเวณนั้นจะ ลดเลือนลง ผิวเรียบตึงขึ้น
แม้ในปัจจุบันการใช้โบท็อกซ์ในด้านความงามจะได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้น แต่ยังมีคนอีกจำนวนมากที่เข้าใจเพียงว่าโบท็อกซ์ต้องใช้กับใบหน้าเท่านั้น จริงๆ แล้วโบท็อกซ์นั้นยังสามารถใช้ประโยชน์ได้หลากหลายมากกว่าที่ใครๆ คิด ดังนี้
1.รักษาโรค
ในทางการแพทย์แล้ว Botulinum Toxin ใช้ในการรักษาผู้ที่มีความ ผิดปกติของร่างกายได้หลายอย่าง เช่นใช้ฉีดเพื่อรักษาผู้ที่มีอาการตาเหล่ ตาเขหรือตากระตุก อาการโรคกล้ามเนื้อบิดเกร็ง อาการกลั้นปัสสาวะไม่อยู่ รวมถึงอาการปวดศีรษะจากโรคไมเกรนเรื้อรัง
2.ลดเลือนริ้วรอยบนผิวหน้า เช่น บริเวณหน้าผาก หางตา หว่างคิ้ว
การฉีดโบท๊อกซ์ที่ถูกวิธีนั้นนอกจากจะไม่ทำให้หน้าคุณดูแข็งเกร็งแล้ว คุณยังสามารถแสดงอารมณ์ทางสีหน้าได้อย่างเป็นปกติ เพราะโบท๊อกซ์จะทำงานเฉพาะในส่วนของกล้ามเนื้อที่แพทย์ได้เลือกฉีด เช่น หากฉีดโบท็อกซ์ในบริเวณกล้ามเนื้อที่หน้าผากส่วนกลางแล้ว จะไม่กระทบกับการทำงานของกล้ามเนื้อหน้าผากด้านข้าง ผลคือคุณจะสามารถการยกคิ้วได้อย่างเป็นธรรมชาติ ทำให้การแสดงอารมณ์ทางสีหน้าเป็นไปได้อย่างเป็นปกติ
3.แก้ไขรูปหน้าให้เรียว V-Shape
ด้วยคุณสมบัติของโบท็อกซ์ที่ช่วยคลายกล้ามเนื้อโบท็อกซ์จึงสามารถแก้ไขโครงสร้างใบหน้าที่แลดูเหลี่ยมอันเกิดจากกล้ามเนื้อที่อาจใหญ่เกินกว่าปกติซึ่งเกิดจากลักษณะทางพันธุกรรม หรือพฤติกรรมบางอย่างที่ไปกระตุ้นให้ กล้ามเนื้อบริเวณนี้ใหญ่ขึ้น เช่น การนอนกัดฟัน การเคี้ยวอาหารที่เหนียว บ่อยๆ โบท๊อกซ์ที่ฉีดเข้าไปบริเวณดังกล่าวจะเข้าคลายกล้ามเนื้อบริเวณ กรอบหน้าให้เล็กลง รูปหน้าที่ดูอูมใหญ่จะค่อยๆเรียวเล็กลง โครงหน้าได้รูป V-shape โดยไม่จำเป็นต้องผ่าตัดกรามแต่อย่างใด
4.ปรับขนาดของน่องที่ใหญ่เทอะทะให้เรียวเล็ก
สำหรับคุณผู้หญิงที่อาจจะไม่ปลื้มนักกับการมีน่องที่ใหญ่เพราะทำให้ความ มั่นใจที่จะอวดผิวสวยต้องหมดลง สาเหตุเกิดจากกล้ามเนื้อ Medial Gastrocnemius(กล้ามเนื้อบริเวณน่อง)มีขนาดใหญ่ วิธีการฉีดโบท็อกซ์เพื่อ ลดขนาดของน่องนั้น แพทย์จะตรวจดูขนาดของกล้ามเนื้อ เพื่อประเมินว่า จะฉีดโบท็อกซ์เข้าไปที่บริเวณใดของน่องได้บ้าง และจะต้องใช้โบท็อกซ์ในปริมาณเท่าไร ซึ่งโดยทั่วไปแล้วการฉีดโบท็อกซ์เพื่อลดขนาดของน่องนั้นจะใช้ปริมาณมากกว่าการฉีดบริเวณหน้า หลังรับบริการฉีดโบท๊อกซ์ เพื่อลดขนาดน่องแล้ว ในบางรายอาจมีอาการเมื่อยล้ากล้ามเนื้อบริเวณน่องบ้าง ซึ่งอาการเมื่อยล้าจะหายไปเองใน1สัปดาห์ จากนั้นขนาดของน่อง จะค่อยๆลดลง
5.แก้ปัญหากลิ่นรักแร้
โบท็อกซ์ที่ฉีดเข้าไปที่รักแร้จะช่วยลดการขับเหงื่อจากรักแร้ได้กว่า 80% เมื่อเทียบกับคนที่ไม่ได้ฉีดโบท็อกซ์ ทั้งยังช่วยให้รูขุมขนบริเวณรักแร้เล็กลง ผิวเรียบเนียนขึ้นได้ดังนั้น
การรักษาทำอย่างไรบ้าง?
แพทย์จะฉีดโบท็อกซ์ในปริมาณเพียงเล็กน้อยลงในตำแหน่งที่ต้องการ บริเวณกล้ามเนื้อใบหน้าด้วยเข็มที่มีขนาดเล็กมากโดยใช้เวลาเพียง 10 นาที คนไข้ส่วนใหญ่จะมีความรู้สึกเจ็บเล็กน้อยคล้ายมดกัด
ปฎิบัติอย่างไรตัวหลังฉีดโบท๊อกซ์?
- ห้ามนอนราบ 4 ชั่วโมงหลังฉีด
- ห้ามนวดหน้า ทำทรีตเมนต์ประมาณ 1 สัปดาห์
- ห้ามดื่มแอลกอฮอล์ประมาณ 3 วัน
- สามารถดำเนินชีวิตได้ตามปกติ ล้างหน้า แต่งหน้าได้ตามปกติ
จะเห็นผลการรักษาหลังจากการทำโบท็อกซ์ได้อย่างไร?
โดยส่วนมากแล้วโบท็อกซ์จะเริ่มทำงานทันที โดยหลังฉีดโบท๊อกซ์ 2-3วันจะเริ่มเห็นผลชัดเจนขึ้น และจะเห็นผลเต็มที่ในภายใน 7 วัน ประสิทธิภาพของโบท็อกซ์นั้นจะคงอยู่ได้ประมาณ 4-6 เดือน ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคล และเพื่อรักษาประสิทธิภาพของสภาพ ผิวหนังจากการฉีดโบท็อกซ์ แพทย์แนะนำให้ฉีดโบท๊อกซ์ซ้ำ 2-3 ครั้งต่อปี โดยจากการศึกษาพบว่าการฉีดโบท็อกซ์อย่างต่อเนื่องจะช่วยทำให้การฉีด โบท็อกซ์ครั้งต่อๆไป มีประสิทธิภาพที่ยาวนานมากขึ้น ซึ่งจะช่วยให้คุณฉีดโบท็อกซ์ในปริมาณน้อยลงได้ในอนาคต
ริ้วรอยจะเพิ่มขึ้นหรือไม่หากหยุดฉีดโบท็อกซ์?
ริ้วรอยในบริเวณที่ฉีดโบท็อกซ์จะไม่เพิ่มขึ้นโดยมากริ้วรอยของคุณจะกลับมา เป็นปกติเหมือนก่อนทำโบท็อกซ์ในช่วยระยะเวลาประมาน6-12เดือนหลังจากสาร โบท๊อกซ์สลายตัวไป
การฉีดโบท็อกซ์มีผลข้างเคียงหรือไม่?
ยังไม่มีรายงานถึงผลข้างเคียงถาวรของการฉีดโบท๊อกซ์ ในบางกรณีอาจจะมีอาการปวด มีรอยช้ำเล็กน้อย เฉพาะในบริเวณที่ฉีด แต่อาการดังกล่าวจะเกิดขึ้นเพียงชั่วคราว
การฉีดโบท็อกซ์ปลอดภัยหรือไม่?
โบท๊อกซ์ผ่านการรับรองจากองค์การอาหารและยาทั้งของไทยและของ สหรัฐอเมริกา แต่สำหรับใครที่มีประวัติแพ้สารโบท๊อกซ์ กำลังตั้งครรภ์หรือให้นมบุตรรวมไปถึงเคยมีประวัติเป็นโรคกล้ามเนื้อ อ่อนแรงมาก่อน ไม่ควรเข้ารับการฉีดโบท๊อกซ์โดยเด็ดขาด เพื่อความปลอดภัยของตัวคุณเอง
สำหรับคนที่คิดจะไปเสริมความงามด้วยโบท็อกซ์ก็คงจะพอทราบกันแล้วว่าโบท็อกซ์นั้นสสามารถทำอะไรได้บ้าง อย่างไรก็ตามก็ควรพิจารณาเลือกสถานที่ให้บริการ โบท็อกซ์ที่เชื่อถือได้ เพราะในปัจจุบันมีการใช้โบท็อกซ์ปลอมมาฉีดให้ ซึ่งจะส่งผลเสีย จึงเป็นเรื่องที่ต้องระมัดระวังเช่นกัน
เขียนโดย นพ.ดิรนัย เมฆวัฒนกุล