อัปเดต Radiesse 2025 !! ราคาเท่าไหร่ ? ฉีดที่ไหนดี ? งานผิว เติมเต็มในหลอดเดียว

เลือกอ่านหัวข้อ Radiesse 
Radiesse คืออะไร
Radiesse หลักการทำงาน
Radiesse ฉีดบริเวณไหนได้บ้าง 
Radiesse ฉีดปริมาณเท่าไหร่จึงจะเห็นผล
ฉีดRadiesse ที่ไหนดี ?

ฉีดRadiesse ที่อิสสวีร์คลินิก ต่างจากที่อื่นอย่างไร ? 
Radiesse แท้เช็กอย่างไร ? 
Radiesse ราคาเท่าไหร่ ? 
รีวิว Radiesse 
รีวิว Radiesse บริเวณใบหน้า
รีวิว Radiesse บริเวณคอ

 

 

 

RADIESSE (เรเดียส) คือ สารกระตุ้นคอลลาเจน (Biostimulator) ชนิดพิเศษ ที่ประกอบด้วย CaHA (คาห้า) หรือ Calcium Hydroxylapatite เป็นองค์ประกอบที่อยู่ในกระดูกและฟันของร่างกายมนุษย์ซึ่งเป็นสารที่มีความปลอดภัยสูง

Radiesse (เรเดียส) ทำหน้าที่ในการกระตุ้นคอลลาเจนให้เกิดใหม่เพื่อทดแทนคอลลาเจนที่สูญเสียไปตามอายุ ให้ผลลัพธ์ในการเติมวอลลุ่มให้กับผิวแบบเห็นผลทันที Radiesse ช่วยฟื้นฟูผิวถึง 5 องค์ประกอบในระยะยาว

1.Collagen type 1 เพิ่มขึ้น 150% ช่วยให้ผิวกระชับ แน่นเฟิร์ม
2.Collagen type 3 เพิ่มขึ้น 130% ช่วยให้เกิดการเรียงตัวของ Collagen type 1 ได้อย่างเหมาะสม
3.Elastin เพิ่มขึ้น 260% ให้ผิวมีความยืดหยุ่น ลดริ้วรอยและความหย่อยนคล้อยให้ดูดีขึ้นได้
4.Proteoglycan สารน้ำหล่อเลี้ยงผิว เพิ่มความชุ่มชื้น ให้ผิวเต่งตึงแลดูอ่อนเยาว์
5.Angiogenesis สารอาหารหล่อเลี้ยงผิว กระตุ้นการไหลเวียนโลหิตเพื่อผิวสุขภาพดี
 

Radiesse (เรเดียส) จึงเหมาะในการแก้ปัญหาฟื้นฟูร่องริ้วรอยและผิวที่เกิดการเสื่อมสภาพในระดับปานกลางถึงระดับสูงได้อย่างมีประสิทธิภาพ เช่น ร่องแก้ม ร่องน้ำหมาก ใต้ตา เติมแก้มตอบ รวมไปถึงบริเวณคอหลังมือ เนินอก รอยแตกลายตามร่างกาย Radiesse จึงให้กำเนิดผิวใหม่ที่สวยงามจากใต้ชั้นผิว อย่างเป็นธรรมชาติ

 

หลักการทำงานของ RADIESSE (เรเดียส) คือ เมื่อฉีด Radiesse(เรเดียส) เข้าไปในผิวจะช่วยกระตุ้นการทำงานของ Fibroblast ทำให้เกิดการกระตุ้นกระบวนการสร้างคอลลาเจน อีลาสติน และ สารให้ความชุ่มชื้นให้กับผิว รวมไปถึงการสร้างหลอดเลือดใหม่เพื่อนำสารอาหารที่มีประโยชน์เข้าสู่ชั้นผิวหนัง และในระยะยาว Radiesse (เรเดียส) จะช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนได้ถึง 2 ปี และเมื่อโครงสร้างคอลลาเจนถูกผลิตมากขึ้นและมีคุณภาพมากยิ่งขึ้น จะช่วยให้ผิวแข็งแรง กระชับ เรียบเนียน และผิวหน้าดูสุขภาพดี  

 

Radiesse (เรเดียส) ฉีดบริเวณไหนได้บ้าง ? 
-ขมับตอบ
-หน้าแก้ม งานผิวทั่วใบหน้า
-กรอบหน้า
-ร่องตาลึก
-ร่องแก้ม
-ร่องน้ำหมาก
-ริ้วรอย ร่องลึก บนใบหน้า
-หลังมือ
-คอ
-เนินอก
-รอยแตกลายตามส่วนต่างๆ

 

สำหรับปริมาณ Radiesse ที่ใช้โดยทั่วไปแต่ละบริเวณจะใช้ 1 หลอดต่อ 1 ตำแหน่ง เช่น ร่องแก้ม 1 หลอด ร่องน้ำหมาก 1 หลอด แต่ถ้าเป็นมือต้องใช้ข้างละ 1 หลอด เป็นต้น ทั้งนี้ทั้งนั้นจะอยู่ที่แพทย์ประเมินตามปัญหาผิวเพื่อให้เกิดผลลัพธ์มากที่สุด โดยทางอิสสวีร์จะใช้เทคนิค Hyperdiluted technique(CaHA HTC) เพื่อเพิ่มปริมาณยาจาก 1 หลอด(1.5 ซีซี) เป็น 3-5 ซีซี จึงสามารถแก้ปัญหาได้หลายตำแหน่งในครั้งเดียวเพียง 1 หลอดเท่านั้น

 

ปัจจุบันมีคลินิกความงามมากมายที่ผู้บริโภคสามารถเลือกเข้ารับบริการได้ แต่การเลือกฉีด Radiesse เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีและคุ้มค่ามากที่สุด จะต้องเลือกคลินิกที่ได้รับมาตรฐาน ปลอดภัยและมีความเชี่ยวชาญของแพทย์ 

1.คลินิกจะต้องมีความน่าเชื่อถือและสามารถตรวจสอบได้ผ่านเว็ปไซต์ตรวจสอบพยาบาลเอกชน https://privatehospital.hss.moph.go.th/ 

2.รายชื่อแพทย์จะต้องตรวจสอบผ่านเว็บไซต์แพทยสภาได้ https://checkmd.tmc.or.th/ 

3.แพทย์ที่ให้บริการควรเป็นแพทย์ที่ผ่านการอบรบการฉีด Radiesse และได้รับ Certified Injector รับรองจากบริษัท Merz Aesthetics Thailand 

4.เช็ก Radiesse แท้ สามารถสแกน Qr code เช็กได้กับเว็ปไซต์บริษัท https://www.merzaesthetics.co.th/ ได้ 

ฉีด Radiesse(เรเดียส) ที่อิสสวีร์คลินิกแตกต่างด้วยเทคนิคเฉพาะที่เห็นผลลัพธ์ชัดเจนร่วมกับความเชี่ยวชาญของทีมแพทย์ ที่มีการออกแบบการรักษาให้แต่ละบุคคลเพื่อแก้ปัญหาได้อย่างตรงจุดเพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ที่อิสสวีร์คลินิกคุณหมอมีประสบการณ์กว่า 10 ปีและผ่านการอบรมขั้นสูงของบริษัท Merz Aesthetics Thailand จึงมั่นใจได้ว่าจะได้รับผลลัพธ์สูงสุด รวมไปถึงความปลอดภัยสูงสุดครับ 

ที่อิสสวีร์คลินิกใช้เทคนิค CaHA HTC  คือการฉีดสานตาข่ายเพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนแบบ 3 ชั้น ทั้งชั้นลึก ชั้นกลาง ชั้นตื้น  และจะมีการเลือกผสมความเข้มข้นของยาและเทคนิคการวางยา 3 รูปแบบ ให้เหมาะสมกับแต่ละตำแหน่งที่ต้องการฉีด สำหรับรูปแบบการวาง Radiesse ในเทคนิค CaHA HTC ประกอบด้วย 3 รูปแบบ ดังนี้

 

1. Cross-Hatching technique : เป็นการวางสาน Radiesse(เรเดียส) ในรูปแบบไขว้สานกัน เพื่อให้เกิดการสร้างโครงตาข่ายคอลลาเจนในระดับตื้น สร้างความแข็งแรงของผิวชั้นบน ช่วยให้ความยืดหยุ่นของผิวดีขึ้น ชุ่มชื้นขึ้น ลดเลือนริ้วรอย บริเวณที่เหมาะสม ได้แก่ หน้าแก้ม เนินอก ร่องมุมปากตื้นๆ รอยแตกลาย เป็นต้น

2. Linear technique : เป็นการวาง Radiesse(เรเดียส) ในรูปแบบเส้นตรง เพื่อให้เกิดการเติมเต็มร่องต่างๆ  เช่น ร่องแก้ม ร่องมุมปาก ใต้ตา เส้นที่คอ หลังมือ  โดยจะวาง Radiesse ในชั้นกลางของผิว เติมเต็มให้ร่องตื้นขึ้น

 

3. Bolus technique : เป็นการวาง Radiesse(เรเดียส) แบบจุดใดจุดหนึ่งในผิวชั้นลึก เพื่อให้เกิดการเติมเต็มของคอลลาเจนในชั้นลึก ส่งผลให้เกิดการยกตัวของผิวจากชั้นลึก การเติมด้วยเทคนิคนี้เหมาะกับตำแหน่งที่มีการทรุดตัวของคอลลาเจนเป็นร่องลึก ได้แก่ ร่องแก้มลึก ร่องมุมปากลึก  แก้มตอบ ขมับ เป็นต้น

 

 

นอกความเชี่ยวชาญและเทคนิคของคุณหมอแล้ว ที่อิสสวีร์คลินิกมั่นใจได้เลยว่า ทางคลินิกใช้สินค้า Radiesse แท้รับตรงจากบริษัท Merz Aesthetics โดยสังเกตได้จาก 4 จุดนี้ครับ 

1.มีเลขทะเบียน อย. และเอกสารกำกับ
2.มีสติ๊กเกอร์ Qr code Merz Check บนกล่องผลิตภัณฑ์ สามารถแสกนและเช็กได้บนเว็ปไซต์ Merz Aesthetics 
3.เลข Lot. ที่ผลิต และ วัน เดือน ปี วันหมดอายุอย่างครบถ้วน
4.มีใบประกัน Skin Rejuvenetion Card สามารเช็ก การันตีได้ว่าเป็นสินค้าที่นำเข้าโดยบริษัท Merz Aesthetics อย่างถูกต้อง
 

Radiesse(เรเดียส) ราคามาตรฐานที่บริษัท Merz Aesthetics Thailand กำหนด 36,000 บาท ต่อ 1.5 cc หรือ 1 กล่อง หากราคาต่ำกว่าที่บริษัทกำหนดอาจจะเป็นสินค้าที่ไม่มี อย. ไทย ขึ้นอยู่กับพิจารณาของผู้รับบริการครับ
มองว่าเป็นราคาที่คุ้มค่า ช่วยเติมเต็มร่องลึกและยังช่วยปรับปรุงคุณภาพผิว ผลลัพธ์นานถึง 2 ปี 

 

 

RADIESSE ราคาปกติจะอยู่ที่ 50,000 บาท / 1.5 cc 
ราคาที่อิสสวีร์คลินิก 
1 กล่อง กล่องละ 36,000 บาท               (แถมฟรี Voucher 5,000 บาท)
2 กล่องขึ้นไป กล่องละ 33,000 บาท Hot!! (แถมฟรี Voucher 5,000 บาท)

รีวิว Radiesse ฉีดบริเวณใบหน้า

 

รีวิว Radiesse ฉีดบริเวณคอ