ดูดไขมันที่ Issavee Clinic: Expert Body Contouring Solutions

ที่อิสสวีร์คลินิก ทีมแพทย์ที่มีประสบการณ์ดูดไขมันกว่า 10 ปีของเรา เชี่ยวชาญในการแก้ปัญหารูปร่างให้เหมาะสมกับแต่ละท่าน ด้วยเทคนิคการดูดไขมันที่ทันสมัย  รวมถึงการดูดไขมันแบบ FibroSonic TripleLayer Liposuction (FTL) Technique เทคนิคเฉพาะของอิสสวีร์คลินิก
แล้วการดูดไขมันคืออะไร เหมาะกับใคร มีรายละเอียดอะไรที่ต้องรู้บ้าง  หมอรวบรวมมาให้อย่างครบถ้วน เพื่อเป็นข้อมูลที่ช่วยในการตัดสินใจรับการรักษาปรับสัดส่วนด้วยการดูดไขมันครับ


 

 

1. การดูดไขมัน คืออะไร?

การดูดไขมัน (Liposuction) คือ วิธีการกำจัดไขมันที่ไม่ต้องการ ที่สะสมเป็นส่วนเกินในบางตำแหน่งของร่างกาย ทำให้รูปร่างบริเวณนั้นให้เล็กลง สมส่วน และสวยงามมากยิ่งขึ้น 
การดูดไขมัน จะมุ่งเน้นไปที่ไขมันที่ไม่ตอบสนองต่อการออกกำลังกายและควบคุมอาหาร  เหมาะที่สุดกับผู้ที่ร่างกายแข็งแรง น้ำหนักตัวไม่มากจนเกินไป เพราะการดูดไขมันไม่ใช่วิธีในการลดน้ำหนัก แต่เป็นการทำให้ผู้ที่ดูดไขมันเกิดความพึงพอใจในรูปร่างและสัดส่วนของตนเองมากยิ่งขึ้น 
การดูดไขมันเริ่มมีการพัฒนามาตั้งแต่ปี 1970 โดย Dr. Yves-Gérard Illouz ศัลยแพทย์ชาวฝรั่งเศษ ซึ่งหลังจากนั้น ก็ได้มีการพัฒนาการใช้เครื่องมือ และเทคนิคต่าง ๆ มากขึ้นจนกลายเป็นเทคนิคการดูดไขมันในปัจจุบัน

การดูดไขมัน เป็นการใช้เครื่องมือที่เรียกว่า Cannula ซึ่งเป็นท่อขนาดเล็ก ๆ ต่อกับเครื่องดูดแรงดันลบ เจาะผ่านรูขนาดเล็ก ๆ ที่ผิวหนัง และค่อย ๆ ดูดไขมันตามตำแหน่งที่ต้องการ ซึ่งในปัจจุบันที่อิสสวีร์คลินิก มีการใช้เทคนิคหลาย ๆ อย่างร่วมด้วย เช่น Tumescent liposuction , High-Definition liposuction และ Ultrasound-assisted liposuction  ซึ่งเป็นการใช้คลื่นอัลตร้าซาวน์ช่วยสลายไขมัน ทำให้การดูดง่ายขึ้น ได้ผลลัพธ์ดีขึ้น และบาดเจ็บน้อยลง

 

2. ข้อดีของการดูดไขมันที่อิสสวีร์คลินิก

การดูดไขมัน มีข้อดีคือ เป็นการรักษาที่เห็นผลได้ทันที และเห็นผลได้อย่างชัดเจน ต่างกับวิธีการลดไขมันด้วยวิธีอื่น ๆ เช่น การใช้ความเย็น หรือการฉีดเมโสลดไขมัน ที่ต้องทำหลายครั้ง และมักไม่ได้ผลอย่างชัดเจนมากนัก สำหรับที่อิสสวีร์คลินิก เราจึงแนะนำให้เลือกวิธีการดูดไขมัน ในท่านที่ร่างกายแข็งแรง และมีไขมันสะสมอย่างชัดเจน เพราะมีข้อดีดังนี้

1. กำจัดไขมันส่วนเกินออกได้อย่างตรงจุด : โดยเฉพาะไขมันดื้อ ที่ไม่ตอบสนองต่อการลดน้ำหนัก (Stubborn Fat) ที่สะสมอยู่เฉพาะในบางตำแหน่ง 

 

 

2. ได้ผลลัพธ์ถาวร : ตำแหน่งที่ทำการดูดไขมันไปแล้ว จะไม่กลับมาสะสมไขมันอีก ยกเว้นมีการเพิ่มน้ำหนักในปริมาณมาก ๆ 
 

 

3. เพิ่มความมั่นใจในตนเอง : การปรับรูปร่าง และสัดส่วนให้ดีขึ้น จะแก้ปัญหาที่เป็นข้อบกพร่อง ทำให้เกิดความมั่นใจในรูปร่างยิ่งขึ้น

 

 

4. มีแผลเพียงเล็กน้อย : แผลจากการดูดไขมันโดยแพทย์ที่เชี่ยวชาญ จะมีขนาดเล็ก (ไม่เกิน 0.5 cm) และส่วนมากจะหายได้ดี มีการซ่อนแผล จนแทบสังเกตแผลไม่เห็น นอกจากนี้ด้วยเทคนิคของอิสสวีร์คลินิก จะใช้การลงแผลแบบน้อยที่สุด เช่นดูดเหนียงและเย็บกล้ามเนื้อคอ ใช้เพียงแผลใต้คางแผลเดียว หรือดูดหน้าท้องและเอว ก็สามารถดูดได้จากแผลบริเวณ bikini line (ขอบของกางเกงใน) เพียง 2 แผลเท่านั้น  

 

 

5. ฟื้นตัวไว กลับบ้านได้ทันที : การดูดไขมันค่อนข้างฟื้นตัวไวเมื่อเทียบกับการผ่าตัดอื่น ๆ สามารถกลับไปใช้ชีวิตปกติได้ภายในไม่กี่วัน หรือไม่เกิน 2 สัปดาห์ (ขึ้นกับตำแหน่งที่ทำการรักษา) และการผ่าตัดดูดไขมันสามารถทำได้โดยไม่ต้องดมยาสลบ สามารถกลับบ้านได้ทันทีหลังทำ จึงไม่ต้องกังวลเรื่องการพักฟื้น 

 

 

6. เลือกดูดได้หลายตำแหน่ง ทำได้พร้อมกับการรักษาอื่น : การดูดไขมันเป็นวิธีที่สามารถแก้ปัญหาได้เกือบทั้งร่างกาย เช่น หน้าท้อง ต้นแขน ต้นขา หลัง เหนียง หลาย ๆ ตำแหน่งสามารถดูดพร้อมกันได้ เช่น แขนพร้อมเหนียง ท้องพร้อมเอวและสะโพก แต่หากปริมาณดูดไขมันมากเกินไป ก็ควรแบ่งการทำ หรือใช้การดมยาสลบช่วย เพื่อไม่ให้ปริมาณยาชาที่ใช้เกินกำหนด 
นอกจากนี้ การดูดไขมันในบางส่วนเช่น การดูดไขมันเหนียง ก็สามารถทำพร้อมกับการรักษาอื่นได้ด้วย เช่น ดูดเหนียง พร้อมกรอบหน้า พร้อมการตัดไขมันกระพุ้งแก้ม และเย็บกล้ามเนื้อคอ ดึงคอ ดึงหน้า และเสริมคาง หรือการดูดไขมันหน้าท้อง พร้อมการตัดหนังหน้าท้อง ทั้งนี้เพื่อให้ผลการรักษาออกมาดีที่สุด ตามความต้องการของคนไข้ครับ
 

 

3. ดูดไขมัน เห็นผลถาวร : ความลับของเซลล์ไขมัน 

ร่างกายเราสะสมพลังงานในเซลล์ไขมัน (Adipose Tissue) ซึ่งตำแหน่งที่ไขมันสะสมขึ้นกับหลายปัจจัยทั้ง กรรมพันธ์ อายุ เพศ และฮอร์โมน อย่างเช่นในผู้หญิงก็มักจะมีการสะสมไขมันที่ต้นแขน ต้นขา สะโพก ขณะที่ผู้ชายก็ชอบมีไขมันสะสมที่หน้าท้องเป็นหลัก
แต่เราจะพบว่า บางท่านมีการสะสมไขมันมากผิดปกติในบางตำแหน่ง หรือมีไขมันดื้อ (Stubborn fat) เป็นไขมันที่ไม่ยอมลดลงทั้งที่น้ำหนักตัวน้อยแล้ว ออกกำลังกาย และคุมอาหารแล้ว

 

 

ทั้งนี้ เวลาร่างกายต้องการใช้พลังงาน ก็จะดึงไขมันมาใช้ โดยแตกตัวเป็น กรดไขมัน และ glycerol  แต่เราไม่สามารถเลือกได้ว่าจะให้ดึงพลังงานจากไขมันส่วนไหน หลายท่านที่พบหมอยังเข้าใจผิดอยู่ว่า ถ้าออกกำลังกายต้นแขนเยอะ ๆ แล้วไขมันที่ต้นแขนจะลดลง หรือซิทอัพมาก ๆ แล้วจะทำให้ไขมันหน้าท้องลดลง  ซึ่งก็ไม่ได้ผล จึงต้องเลือกใช้การดูดไขมันเป็นวิธีรักษาแทนครับ
 

 

การดูดไขมันเป็นการรักษาที่เห็นผลได้ถาวร เพราะ 3 ปัจจัยนี้ครับ

1. เป็นการกำจัดเซลล์ไขมันอย่างถาวร : การดูดไขมัน จะทำลายเซลล์ไขมัน ซึ่งเป็นเหมือนโกดังเก็บไขมันทั้งหมดออกไปเลย  ต่างจากไขมันที่ลดโดยวิธีอื่น ซึ่งจะแค่ลดขนาดเซลล์ลงเท่านั้น เมื่อน้ำหนักมากขึ้นไขมันก็จะกลับมาสะสมใหม่ แต่บริเวณที่ทำการดูดเซลล์ไขมันออกไปแล้ว จะไม่มีการสร้างเซลล์ขึ้นใหม่ จึงได้ผลอย่างถาวร
2. ร่างกายไม่มีการสร้างเซลล์ไขมันขึ้นใหม่ : เมื่อผ่านช่วงวัยรุ่นไปแล้ว เซลล์ไขมันมักจะไม่มีการสร้างใหม่ ดังนั้นตำแหน่งที่ดูดไขมันไปแล้วจึงไม่สามารถกลับมาสะสมไขมันขึ้นใหม่ได้ ซึ่งจากประสบการณ์ของหมอที่อิสสวีร์คลินิกพบว่า ในท่านที่ดูดไขมันไปแล้วจะไม่กลับมาอ้วนในตำแหน่งเดิมอีก แต่ถ้าน้ำหนักขึ้นก็จะไปอ้วนขึ้นในตำแหน่งอื่นที่มีเซลล์ไขมันอยู่แทน
3. ตำแหน่งที่ดูดไขมันไปแล้ว จะเหลือเซลล์ไขมันอยู่บ้าง : เนื่องจากการดูดไขมันในแต่ละตำแหน่งจะนำเซลล์ไขมันออกไปประมาณ 50-80% จะยังเหลือเซลล์ไขมันอยู่บ้าง ดังนั้น หากน้ำหนักตัวมากขึ้น ตำแหน่งนั้นก็จะยังสามารถใหญ่ขึ้นได้บ้าง และกลับกัน ถ้าน้ำหนักลดลงอีก บริเวณที่ดูดไปแล้ว ก็จะยังเล็กลงได้อีกเช่นกัน

 

 

Fibrosonic TripleLayer Liposuction (FTL) Technicque:
A Revolution in Body Sculpting by Issavee Clinic

 

ที่อิสสวีร์คลินิก ด้วยประสบการณ์ดูดไขมันกว่า 10 ปี และผู้เข้ารับการบริการกว่า 10000 ท่าน ทีมแพทย์ของเราได้พัฒนาศักยภาพในการดูดไขมันอยู่เสมอโดยผสมผสานทั้งศาสตร์ ศิลป์ และเทคโนโลยีที่ทันสมัย เกิดเป็นเทคนิคเฉพาะของอิสสวีร์ที่เรียกว่า FTL liposuction technique  ที่ผสมผสานนวัตกรรมการสลายไขมัน การจัดการผังผืด การจัดการไขมันแบบ triple layer การจัดการไขมันในระดับความหนาบาง บนพื้นฐานศิลปะการแกะสลักร่างกาย และความเป็นธรรมชาติ ที่ช่วยสร้างความมั่นใจในผลลัพธ์ของการดูดไขมันให้กับทุกท่าน

 

6 ข้อเทคนิคเฉพาะใน FTL liposuciton by issavee

1. Artistic Sculpture

เพราะร่างกายเหมือนผลงานศิลปะ ดังนั้น FTL technique จึงต้องโฟกัสไปที่การแกะสลักร่างกายในมุมมอง 3 มิติ ต้องพิจารณาทั้ง กล้ามเนื้อ ไขมัน ผิวหนัง กระดูก ความสมส่วน สัดส่วนของร่างกาย รวมไปถึง curve ต่าง ๆ ที่สำคัญ ในร่างกาย ทั้ง  C curves , S curves และ R curve ที่ต้องพิจารณาร่วมด้วยครับ

 

 

 

2. Positive & Negative Space Management

ในเทคนิค FTL จะมีการแบ่งตำแหน่งที่เป็น  Positive Space และ Negative Space คือตำแหน่งที่ทำการดูดให้บางมากพอที่จะเกิดเป็นร่อง เกิดเงา  ซึ่งการใช้เทคนิคในแต่ละท่านก็จะแตกต่างกันไป ในท่านที่น้ำหนักตัวมาก ก็จะใช้เพียงเล็กน้อย เพื่อให้รูปร่างดูสมส่วน แต่ในท่านที่มีน้ำหนักไม่มาก ต้องการให้เกิดร่องกล้ามเนื้อชัด เช่นการมีร่อง 11 หรือ six pack บริเวณหน้าท้อง ก็จะต้องให้เกิดร่อง Negative Space ที่มากขึ้น 
นอกจากนี้ยังต้องมีการทำ Transitional Zone คือตำแหน่งเชื่อมต่อระหว่างสองบริเวณเพื่อให้เกิดความกลมกลืน และละมุนเป็นธรรมชาติมากที่สุด

 

 

 

3. Ultrasonic Assisted liposuction (UAL)

ที่อิสสวีร์คลินิก เราเลือกใช้กระบวนการสลายไขมันและผังผืดแบบ UAL โดยใช้คลื่นอัลตร้าซาวน์ในการสลายเซลล์ไขมัน และเนื้อเยื่อผังผืด fibrous tissue ทำให้การดูดไขมันทำได้อย่างมีประสิทธิภาพ ที่อิสสวีร์คลินิก เราเลือกใช้เครื่อง Ultra-Z ซึ่งจากประสบการณ์การดูดของหมอ กว่า 10 ปี พบว่าสลายไขมันได้ดีที่สุด และได้ปริมาณมากที่สุด ไม่ทำให้ผิวหนังเกิดการบาดเจ็บ และส่งเสริมให้การดูดแบบ FTL ได้ผลดีมากที่สุดครับ  

 

 

4. FibroRelease Technique

fibrous tissue เป็นเนื้อเยื่อแน่น ๆ ที่สร้างจากคอลลาเจน ทำหน้าที่เป็นเหมือนผนังกั้นห้องในชั้นไขมัน ที่ช่วยให้ผิวหนังมีความแข็งแรง ไม่หย่อนคล้อย  แต่ด้วยความที่ผนังนี้ไม่สามารถยืดหยุ่นได้ จึงเป็นสาเหตุของการเกิดเซลลูไลท์ได้ จากการที่เนื้อเยื่อนี้เกิดการหดตัวดึงรั้งผิวหนังลงมา และจากการที่ไขมันมีการขยายขนาดมากขึ้น จนทำให้ผิวบริเวณนั้นปูดออกมาเป็นคลื่นเล็ก ๆ 
นอกจากนี้สำหรับการดูดไขมัน เนื้อเยื่อ fibrous นี้ ยังทำให้การดูดไขมันทำได้ยากขึ้นเพราะเครื่องมือที่ใช้ในการดูดไขมันจะผ่านผนังนี้ไปได้ยาก และการพยายามฝืนอาจทำให้ไขมันที่ถูกดูดออกมาไม่เรียบ ไม่สม่ำเสมอ เกิดการบุ๋มและเป็นคลื่นของผิวหนังหลังดูดได้ครับ

 

 

แต่ด้วยนวัตกรรมใหม่ เครื่องมือที่เหมาะสม และเทคนิคเฉพาะของอิสสวีร์ เราจึงสามารถออกแบบวิธีการแก้ปัญหานี้ในขั้นตอนการดูดไขมัน ร่วมกับการใช้เครื่องมือพิเศษในการคลายผังผืด fibrous tissue ที่กั้นระหว่างกลุ่มของเซลล์ไขมันนี้ โดยจะมีการเลือกการคลายผังผืดเฉพาะในบางตำแหน่ง เพราะไขมันในแต่ละส่วนของร่างกายจะมีปริมาณผังผืดที่แตกต่างกันไป บางตำแหน่งต้องใช้เทคนิคนี้ แต่ในบางตำแหน่งก็ไม่ควรทำเยอะ เพื่อให้ผิวบริเวณนั้นมีการหดรัดเป็นพิเศษ จึงต้องใช้ประสบการณ์ของแพทย์ในการคลายผังผืดด้วยเทคนิคนี้ครับ

ข้อดีที่เห็นได้ชัดของเทคนิคนี้คือ ผลลัพธ์การดูดที่ได้จะเรียบเนียน ลดโอกาสการเกิดคลื่น เกิดผิวหนังไม่เรียบ หรือเกิดการบุ๋ม ซึ่งเป็นปัญหาที่หลาย ๆ ท่านกังวล นอกจากนี้การใช้เทคนิคนี้ยังช่วยลดการเกิดผังผืดดึงรั้งหลังการดูดไขมันแบบปกติได้ด้วยครับ

 

 

5. Triple Layer liposuction

ที่อิสสวีร์ เทคนิค FTL จะใช้การดูดแบบ triple layer liposuction โดยตั้งแต่ขั้นตอนของการใส่ยาชา การสลายไขมัน และการดูดไขมัน จะมีการแบ่งชั้นไขมันออกเป็น 3 ส่วน  ได้แก่ Deep / Intermediate / Superficial Layer นั่นคือ ชั้นลึก ชั้นกลาง และชั้นตื้น ซึ่งการใช้เทคนิคนี้จะทำให้ความเจ็บในการฉีดยาชาลดลง และการดูดจะได้ประสิทธิภาพมากที่สุด ลดโอกาสการเกิดผิวหนังไหม้ ลดโอกาสการเกิดรอยบุ๋ม หรือผิวเป็นคลื่น เพราะการแบ่งชั้นดูดจะทำให้สามารถประเมินผลลัพธ์ได้ง่ายขึ้น และปัญหาการดูดด้วยเทคนิคทั่วไป อาจจะมีการดูดในชั้นตื้นมากเกินไป จึงตามมาด้วยปัญหาต่าง ๆ ได้ครับ
 

 

6. 360 Liposuction

และสุดท้ายคือ การประเมินไขมัน และการดูดแบบ 360 โดยพิจารณาผลลัพธ์หลังดูดในทุกมุมมอง เพราะสรีระของเราไม่ใช่แค่มิติเดียว การโฟกัสการดูดเพียงมุมเดียวอาจไม่ใช่ผลลัพธ์ที่ต้องการในชีวิตจริง ดังนั้น ด้วยเทคนิค FTL ที่อิสสวีร์คลินิก  แพทย์ของเราทุกคนจึงต้องมีการพิจารณาอย่างรอบด้าน ไม่ว่าจะเป็นบริเวณเหนียงที่ต้องทำการดูกรอบหน้าและแก้มด้านล่างไปด้วย , การดูดแขนที่ต้องดูดใต้หัวไหล่ร่วมด้วย หรืออาจจะต้องรวมไปถึง นมน้อย และปีกหลัง  หรือการดูดต้นขาที่ต้องดูดเอวสะโพกไปด้วยครับ

ด้วยเทคนิค FTL ทั้ง 6 ข้อนี้ จึงประสานเป็นกระบวนการดูดไขมันที่แตกต่างของอิสสวีร์คลินิก เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด เหมาะสมตามแต่ละบุคคล บนพื้นฐานความปลอดภัย และลดการเกิดผลข้างเคียงให้ได้มากที่สุด เพื่อความประทับใจสุงสุดของคนไข้ทุกท่าน ซึ่งเป็นแก่นแท้การบริการของอิสสวีร์คลินิกครับ 

ใครที่เหมาะกับการดูดไขมันและการเลือกตำแหน่ง

ใครที่เหมาะกับการดูดไขมัน

การดูดไขมันเป็นการรักษาที่ได้ผลดีมากในการกำจัดไขมันดื้อ ไขมันส่วนเกิน แต่ไม่ใช่ทุกคนที่เหมาะกับการดูดไขมัน ซึ่งที่อิสสวีร์คลินิก เราให้ความสำคัญกับการประเมินก่อนการรักษาเป็นอย่างมาก เพราะผลลัพธ์ที่ดีในการดูดไขมัน จะต้องเริ่มต้นตั้งแต่การดูปัจจัยต่าง ๆ ของร่างกายได้แก่

1. สุขภาพแข็งแรง : ผู้ที่เข้ารับการดูดไขมัน ควรมีสุขภาพแข็งแรง ไม่มีโรคประจำตัวร้ายแรง เช่น โรคหัวใจ โรคเบาหวานที่คุมไม่ได้ หรือ มีภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่อง
2. น้ำหนักตัวคงที่ : การดูดไขมันเหมาะที่สุดกับท่านที่น้ำหนักตัวไม่มากเกินไป และน้ำหนักคงที่ระยะหนึ่งแล้ว เพราะการดูดไขมันไม่ใช่วิธีการลดน้ำหนัก แต่เป็นการปรับสัดส่วนเฉพาะจุด ดังนั้นในท่านที่น้ำหนักตัวมากเกินไป แพทย์ที่อิสสวีร์ก็อาจจะแนะนำการลดน้ำหนักก่อนจะทำการดูดไขมัน
3. มีไขมันดื้อ ไม่ตอบสนองการลดน้ำหนัก : การดูดไขมันเหมาะกับผู้ที่มีไขมันส่วนเกินเฉพาะจุด ที่การลดน้ำหนัก และออกกำลังกาย ก็ไม่ช่วยให้ไขมันลดลง ซึ่งมักพบมากบริเวณหน้าท้อง ต้นแขน ต้นขา สะโพก และเหนียง
4. ผิวหนังยืดหยุ่นดี : ผิวหนังบริเวณที่ทำการดูดไขมัน ควรมีความยืดหยุ่นดี สามารถกระชับได้ดีหลังการดูดไขมันออกไป ดังนั้นในท่านที่ผิวหนังเสียความยืดหยุ่นไปแล้ว แพทย์ก็อาจจะต้องพิจารณาทำการรักษาร่วมเช่น การตัดหนังหน้าท้อง การใช้ thermage เป็นต้น
5. มีความเข้าใจการดูดไขมันตามความเป็นจริง : ท่านที่เข้ารับการดูดไขมัน ควรเข้าใจว่าผลลัพธ์ที่จะได้จากการดูดไขมันเป็นอย่างไรตามลักษณะร่างกายของแต่ละท่าน ไม่คาดหวังเกินความเป็นจริง เพราะรูปร่างของแต่ละท่านมีความแตกต่างกันไป ผลการรักษาจึงต้องปรึกษากับแพทย์ก่อนเพื่อได้เข้าใจผลลัพธ์ที่เป็นไปได้

 ตำแหน่งของการดูดไขมัน

การดูดไขมันในแต่ละตำแหน่งของร่างกาย จะมีความยากง่ายแตกต่างกันไป ตามความแน่นของไขมัน ปริมาณผังผืด ลักษณะผิวหนัง กล้ามเนื้อ กระดูก ของแต่ละตำแหน่ง ทำให้การดูดไขมันแต่ละส่วนไม่เหมือนกัน ต้องใช้ความเชี่ยวชาญที่แต่ต่างกันไป ซึ่งที่อิสสวีร์คลินิก เราจะมีแพทย์ที่ชำนาญเป็นพิเศษในแต่ละสัดส่วน ด้วยประสบการณ์การดูดไขมันกว่า 10 ปี

1.ดูดไขมันเหนียง กรอบหน้า

การดูดไขมันเหนียง และกรอบหน้า เป็นตำแหน่งที่นิยมมากในปัจจุบันทั้งหญิงและชาย เนื่องจากการเห็นผลที่ชัดเจน เห็นผลได้ทันที มีแผลเล็ก ๆ ใต้คางแผลเดียว เจ็บน้อย  และด้วยเทคนิค 360 HDL ของอิสสวีร์ ทำให้การดูดไขมันเหนียงและกรอบหน้า ได้ผลลัพธ์ที่น่าพอใจ ทั้งนี้การดูดไขมันบริเวณนี้ อาจทำร่วมกับการรักษาอื่น ๆ ได้ด้วย เช่นการตัดกระพุ้งแก้ม เสริมคาง ดึงคอ ดึงผิวหนัง (เทคนิค HDL + mini necktight) เพื่อแก้ปัญหาผิวบริเวณคอหย่อนคล้อย คางถอย แก้มป่อง
ดูการดูดไขมันเหนียงและกรอบหน้าแบบละเอียด

2.ดูดไขมันต้นแขน ปีกหลัง และนมน้อย

การดูดไขมันต้นแขน เป็นตำแหน่งที่นิยมมากในผู้หญิง เพราะเป็นบริเวณที่ส่งผลต่อชีวิตประจำวันค่อนข้างมาก การดูดไขมันต้นแขน เป็นตำแหน่งที่ดูดแล้วได้ผลดีมาก  ซึ่งการดูดด้วยเทคนิค 360 HDL ของอิสสวีร์คลินิกจะเป็นการพิจารณาแบบรอบด้านเป็น 3 มิติ ควบคู่ไปกับการพิจารณาไขมันรอบ ๆ ทั้งปีกหลัง นมน้อย  ทำให้การดูดแขนช่วยให้ลำตัวช่วงบนดูเล็กลงอย่างเป็นธรรมชาติ
การดูดไขมันปีกหลัง หรือไขมันส่วนเกินเวลาใส่เสื้อชั้นในด้านหลังมีเนื้อปลิ้น ทำให้เวลาใส่แขนกุด หรือชุดที่รัดรูปแล้วไม่สวย การดูดตำแหน่งนี้มักทำควบคู่ไปพร้อมกับการดูดไขมันต้นแขน เพื่อผลลัพธ์ที่สวยยิ่งขึ้น
ส่วนการดูดไขมันนมน้อย เป็นการดูดก้อนไขมันใต้รักแร้ ซึ่งมักเป็นปัญหาเวลาใส่ชุดชั้นใน ชุดราตรี หรือในท่านที่วางแขนแนบตัวแล้วมีเนื้อปลิ้นหน้าแขน ซึ่งเป็นอีกตำแหน่งที่มักทำควบคู่ไปกับการดูดไขมันต้นแขน เพื่อผลลัพธ์โดยรวมที่สวยยิ่งขึ้นครับ
ดูการดูดไขมันต้นแขน ปีก นมน้อย อย่างละเอียดที่นี่

3.แผ่นหลัง

บริเวณหลัง หรือตำแหน่งสายเสื้อชั้นใน เป็นตำแหน่งที่ลักษณะไขมันแตกต่างจากบริเวณอื่น ๆ ของร่างกายมาก ชั้นผิวหนังค่อนข้างหนา และมีลักษณะไขมันที่เป็นผังผืดเยอะ ดูดออกยาก  การดูดไขมันตำแหน่งนี้จึงเหมาะกับผู้ที่มีไขมันสะสมเยอะ และแพทย์ต้องมีความชำนาญเป็นพิเศษ

4.หน้าท้อง เอว สะโพก

ไขมันหน้าท้องเป็นอีกตำแหน่งนึงที่เป็นที่นิยมในการดูดไขมัน และส่วนมากจะได้ผลดีโดยจะเป็นการปรับแต่งหน้าท้องให้ดูสวยงาม มีส่วนเว้า ส่วนโค้ง ควบคู่ไปกับการดูดไขมันเอว ทั้งนี้การดูดไขมันในบริเวณนี้จะต้องพิจารณาเรื่อง สัดส่วนช่วงล่างควบคู่ไปด้วย ทั้งบริเวณสะโพก ต้นขา และ love handle
สำหรับการดูดไขมันเอว เป็นบริเวณที่ได้ผลดี ช่วยให้รูปร่างเปลี่ยนแปลงอย่างเห็นได้ชัด โดยกาารดูดตำแหน่งนี้ จะต้องใช้เทคนิค High Definition เพื่อให้ผิวหนังบางลงที่สุด เพื่อขับให้เอวดูคอด และเล็กลงมีสัดส่วนที่ชัดเจนมากที่สุด ซึ่งการดูดเอว จะควบคู่ไปกับการดูดไขมันหน้าท้อง และต้นขาด้านนอก
ดูการดูดไขมันหน้าท้อง เอว สะโพก อย่างละเอียดที่นี่

5.ต้นขา

บริเวณต้นขาสามารถแบ่งการดูดได้เป็นหลายส่วน ได้แก่ ด้านนอก ด้านใน ด้านหน้า และด้านหลัง

a. ต้นขาด้านนอก และต้นขาด้านหลัง
การดูดไขมันต้นขาด้านนอก เป็นตำแหน่งที่นิยม เพราะเป็นปัญหาใหญ่ในผู้หญิงหลายท่าน โดยไขมันในผู้หญิงมักจะสะสมต้นขาทั้งด้านนอก ด้านใน มากกว่าด้านหน้าและด้านหลัง โดยที่อิสสวีร์คลินิก เราจะดูลักษณะการสะสมไขมันโดยรวมก่อน หากมีการสะสมมากเฉพาะด้านนอก การดูดไขมันด้านนอกอย่างเดียวก่อนก็มักจะได้ผลดีแล้ว ควบคู่ไปกับการดูดไขมันต้นขาด้านหลัง และใต้ก้น ซึ่งตำแหน่งใต้ก้นจะดูดไม่มาก เพื่อป้องกันปัญหาก้นหย่อนคล้อย

b.ต้นขาด้านใน
การดูดไขมันต้นขาด้านใน เป็นตำแหน่งที่ผู้หญิงหลายท่านต้องการ เพราะเป็นตำแหน่งที่ทำให้เกิดขาเบียด เสียดสี จนเป็นปัญหาผิวหนังได้ ซึ่งการดูดตำแหน่งนี้ จำเป็นต้องใช้ควาามชำนาญของแพทย์เป็นพิเศษ เพราะเป็นบริเวณที่ไขมันมีความนิ่มมาก และผิวหนังมีความหย่อนง่ายมากกว่าต้นขาด้านนอก จึงต้องมีการตรวจประเมินอย่างละเอียดก่อนดูดไขมัน

c.ต้นขาด้านหน้า
การดูดไขมันต้นขาด้านหน้า มักจะทำควบคู่ไปกับการดูดไขมันต้นขาด้านนอก และด้านใน เพื่อให้ลักษณะขามีความเรียบเนียนต่อเนื่อง ซึ่งตำแหน่งนี้เป็นตำแหน่งที่ไขมันมีลักษณะแข็งกว่าไขมันด้านนอกใน การดูดจึงมักเป็นลักษณะการเกลี่ยให้เกิดความสมดุลมากกว่าการดูดให้มากที่สุด

ดูการดูดไขมันต้นขา อย่างละเอียดที่นี่

6. น่อง

การดูดไขมันน่อง ไม่ได้เป็นที่นิยมนัก เพราะในลักษณะของชาวเอเชีย รูปทรงน่องมักจะมีกล้ามเนื้อใหญ่ และเส้นเอ็นสั้น จึงทำให้ช่วงน่องดูใหญ่ การดูดไขมันอาจไม่ได้แก้ปัญหาได้ ที่อิสสวีร์คลินิก เราจะพิจารณาขนาดกล้ามเนื้ออย่างละเอียดก่อน หากน่องที่ใหญ่เกิดจากกล้ามเนื้อ ก็จะแนะนำให้ใช้การรักษาอื่น ๆ แทน เพราะการดูดไขมันอาจทำให้เห็นกล้ามเนื้อชัดขึ้น ไม่ช่วยแก้ปัญหา

7.หน้าอก

การดูดไขมันหน้าอก มักทำในผู้ชายที่ดูมีเต้านม จากไขมันที่สะสมมาก การดูดตำแหน่งนี้มักได้ผลดี หากเต้านมนั้นเกิดจากไขมัน แต่ถ้าในผู้หญิง ที่ต้องการลดขนาดเต้านม การดูดไขมันจะเหมาะกับแค่บางท่าน เพราะบางท่านที่เป็นต่อมน้ำนมมากกว่า การดูดก็จะไม่ได้ให้ผลลัพธ์ที่น่าพอใจ

ทำไมต้องดูดไขมันที่ ISSAVEE

ที่อิสสวีร์คลินิก เราภูมิใจที่ได้เปลี่ยนรูปร่างให้กับหลายท่านมาตลอด 10 ปี ให้ทุกท่านมีความมั่นใจยิ่งขึ้น มีความสุขกับการแต่งตัว และการใช้ชีวิตยิ่งขึ้น
ทีมแพทย์ของอิสสวีร์คลินิก เราไม่หยุดที่จะพัฒนาทั้งความรู้ ความสามารถ เทคนิคต่าง ๆ เพื่อให้ทุกท่านมั่นใจว่าจะได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

ทีมแพทย์และผู้ช่วย

ทีมรักษาของเรา ประกอบด้วยแพทย์ที่มีความชำนาญ ในการดูดไขมัน และได้รับการฝึกการดูดไขมันอย่างเชี่ยวชาญในเทคนิคของอิสสวีร์คลินิก  เช่นเดียวกับบุคลากรทุกคนที่ได้รับการฝึกอบรม จนเชี่ยวชาญ ในการดูแลการทุกท่านให้ได้รับการดูดไขมันที่ดี ทั้งความปลอดภัย และผลลัพธ์ที่สวยงาม เป็นธรรมชาติที่สุด

เทคโนโลยีที่ทันสมัย

ที่อิสสวีร์คลินิก เราพัฒนาตนเองอย่างสม่ำเสมอตั้งแต่วิธีการรักษา ไปจนถึงเทคโนโลยีต่าง ๆ เรามีการทดลอง เปรียบเทียบ และเลือกใช้เครื่องมือที่แม่นยำ ปลอดภัย และมีประสิทธิภาพมากที่สุด รวมไปถึงมาตรฐานในการผ่าตัด ความสะอาด และสิ่งแวดล้อมที่ปลอดภัยที่สุด

Testimonial ผลลัพธ์มากมายตลอด 10 ปี

ไม่มีอะไรจะแสดงความเชี่ยวชาญของเราได้มากเท่ากับผลลัพธ์ที่เห็นได้จริงจากคนไข้ตลอด 10 ปีของเรา เรามีรูปเปรียบเทียบการรักษาจำนวนมากที่สามารถขอดูเพิ่มเติมได้นอกจากที่เห็นใน website นี้ ความเปลี่ยนของรูปร่างที่ทุกคนได้รับ ตามมาด้วยความสุข ความมั่นใจ และเป็นกำลังใจให้กับทีมรักษาของอิสสวีร์คลินิก ให้พัฒนาการรักษาให้ดีขึ้นอย่างไม่หยุดยั้ง

 

ดูดไขมันที่อิสสวีร์ ต้องเตรียมตัวอะไรบ้าง

ท่านที่ต้องการดูดไขมัน อาจมีความกังวลถึงสิ่งที่ต้องเจอ ซึ่งที่อิสสวีร์คลินิก เราอยากให้ทุกคนได้รับประสบการณ์การรักษาที่ราบรื่น อบอุ่น และสบายใจมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ หมอจึงขอสรุปสิ่งที่ทุกท่านต้องพบในการรักษาที่อิสสวีร์คลินิกดังนี้

1. ขั้นตอนการปรึกษา : วางแผนแบบเฉพาะบุคคล

ที่อิสสวีร์คลินิก ทุกท่านจะต้องพบแพทย์เพื่อทำการวางแผน และประเมินตำแหน่งที่ต้องการดูดไขมัน โดยแพทย์จะเลือกวิธีการรักษาที่เหมาะสมกับแต่ละท่าน จากการตรวจร่างกาย และประเมินรูปร่างอย่างละเอียด รวมไปถึงการดูประวัติความเจ็บป่วย โรคประจำตัว ประเมินผิวหนัง ไขมัน และอธิบายถึงขั้นตอนถัดไปในการรักษา หรือในบางท่านที่ไม่เหมาะกับการรักษาด้วยการดูดไขมัน แพทย์ที่อิสสวีร์คลินิกจะอธิบายกับคนไข้ตามตรง และให้ทางเลือกอื่น ๆ ในการรักษาที่เหมาะสมที่สุด

2. เตรียมตัวก่อนรับการรักษา

เมื่อแพทย์ได้แผนการรักษาแล้ว ทีมบุคลากรของเราจะให้แนวทางในการเตรียมตัวก่อนการรักษา เช่น การวางแผนเรื่องอาหาร ออกกำลังกาย ยา วิตามิน ซึ่งจะช่วยให้การรักษาออกมาได้ผลลัพธ์ที่ดี และปลอดภัยที่สุด

3. ขั้นตอนการดูดไขมัน

ในวันที่ทำการดูดไขมัน ท่านจะได้รับการอธิบายขั้นตอนการทำอย่างละเอียด โดยขั้นการดูดไขมัน จะมีกระบวนการหลัก ๆ 4 ขั้นตอน ได้แก่ ขั้นตอนระงับความเจ็บ (เช่น การสูด penthrox การใช้ยานอนหลับ หรือการดมยาสลบ) ขั้นตอนฉีดสารละลายผสมยาชา ขั้นตอนการสลายไขมัน และขั้นตอนการดูดไขมัน

สำหรับกระบวนการทำงานของเครื่อง Ultra-Z ควบคู่กับการดูดไขมัน จะประกอบด้วย 3 ขั้นตอน ได้แก่

1. ขั้นตอนการใส่ยาชา เป็นการใส่ยาชาที่ผสมน้ำเกลือและสารต่าง ๆ เข้าไปในตำแหน่งที่ทำการรักษา
2. ขั้นตอนการสลายไขมัน โดยเครื่อง Ultra-Z จะปล่อยคลื่น Ultrasound เข้าไปสลายไขมันให้หลุดออกจากกัน สลายออกมาในน้ำเกลือยาชา และง่ายต่อการดูดยิ่งขึ้น โดยไม่ทำอันตรายต่อเนื้อเยื่ออื่น ๆ รวมถึงเส้นเลือด และเส้นประสาท
3. ขั้นตอนการดูดไขมัน จะเป็นการใช้เทคนิคของแพทย์เป็นหลัก ในการดูดไขมันที่สลายแล้วออกมา

4. ขั้นตอนการดูแลหลังการดูดไขมัน

หลังการดูดไขมัน ทีมบุคลากรของเราจะให้ข้อการปฏิบัติหลังการดูดไขมัน เพื่อให้การฟื้นตัวดีที่สุด เช่น การลดความเจ็บปวด ลดบวม การใส่ชุดกระชับ การใช้ชีวิตประจำวัน การออกกำลังกาย  ซึ่งที่อิสสวีร์คลินิก เรามีทีมงานในการดูแลหลังทำอย่างใกล้ชิด สามารถปรึกษาได้ตลอดเวลา รวมถึงทางคลินิกมีการฉายแสง LED ลดบวม การนวดกระชับด้วย Tripolar RF เพื่อการฟื้นตัว และผลลัพธ์ที่ดียิ่งขึ้น

 

คำถามที่พบบ่อย

1. ดูดไขมันเหนียงไปแล้ว ผิวหนังจะหย่อนไหมคะ?
คำตอบ : ผู้ที่จะดูดเหนียงได้ ผิวหนังบริเวณเหนียงจะต้องไม่หย่อน ไม่เหี่ยว ซึ่งส่วนมากถ้าอายุไม่เยอะจะไม่เจอปัญหานี้ค่ะ หมอเคยดูดอายุมากสุด 50 ก็ยังได้ผลดีค่ะ ถ้าผิวยังแข็งแรง แต่ถ้าผิวเหี่ยวหมอก็สามารถเสนอวิธีการแก้ไขให้จบในครั้งเดียวได้ค่ะ

2. เหนียงเยอะแค่ไหน ถึงดูดแล้วเห็นผลชัดเจน?
คำตอบ : ไขมันบริเวณเหนียงควรมีความหนาอย่างน้อย 8-10 mm ซึ่งหลังดูดจะลดลงประมาณ 50%

3. ดูดไขมันเหนียงไปแล้วผิวจะเป็นคลื่นไหม
คำตอบ : เหนียงเป็นบริเวณที่หลังดูดแล้วกระชับได้ดี ไม่ค่อยพบว่าเป็นคลื่นหรือไม่เรียบ แต่ก็ต้องทำกับแพทย์ที่มีประสบการณ์ และผิวหนังของคนไข้ต้องยังยืดหยุ่นดีด้วยค่ะ

4. เหนียงเยอะแค่ไหนถึงดูดได้?
คำตอบ : ในคนที่น้ำหนักตัวเยอะก็สามารถดูดเหนียงได้ ส่วนคนน้ำหนักน้อยยิ่งดูดก็จะยิ่งได้ผลดีค่ะ

5. ผอมแต่มีเหนียง เกิดจากอะไร?
คำตอบ : บางคนไขมันเหนียงน้อย แต่เวลาก้มแล้วเป็นชั้น ๆ ดูกรอบหน้าไม่ชัด สาเหตุอาจจะมาจากอย่างอื่นร่วมด้วย เช่นคางสั้นไป กระดูกกรามเล็ก ผิวหย่อน ซึ่งหมอก็จะต้องตรวจอย่างละเอียดก่อนค่ะ

6. ดูดไขมันเหนียง เก็บไขมันส่วนไหนบ้าง?
คำตอบ : การดูด หมอจะเน้นบริเวณใต้คาง เนื่องจากไขมันมักอยู่บริเวณนี้มาก ร่วมกับบริเวณกรอบหน้า ซึ่งจะเน้นให้เห็นกรอบหน้าชัดเป็นหลัก

7. ไขมันหน้าเยอะมาก ดูดไขมันเหนียงทั้งที สามารถดูดไขมันแก้มด้วยได้ไหม?
คำตอบ : หมอจะไม่ดูดบริเวณแก้มทั้งหมด เนื่องจาก มีวิจัยมากมายว่า ถ้าดูดแก้มจะทำให้เหี่ยวเร็ว และอาจจะทำให้แก้มหย่อนผิดรูปได้ การดูดกรอบหน้าบริเวณใต้กระดูกจะปลอดภัยกว่ามาก และก็ให้ผลที่ดีเช่นกัน แต่หมอจะเลือกดูดเฉพาะในบริเวณที่ปลอดภัยแล้วไม่ทำให้หน้าเหี่ยวมากขึ้นค่ะ

8. ดูดไขมันเหนียงเจ็บมากไหม?
คำตอบ : เหนียงเป็นบริเวณที่เจ็บน้อยที่สุด (ส่วนมากจะบอกหมอว่าเจ็บ 1 คะแนน จาก 10 คะแนน) โดยจะเจ็บเฉพาะช่วงฉีดยาชาเท่านั้นค่ะ

9. ดูดไขมันต้องลางานพักฟื้นไหม?
คำตอบ : หลังดูดเหนียงจะมีอาการบวมไม่มาก สามารถไปทำงานได้เลย อาการบวมจะไม่บวมออกมามากกว่าก่อนดูด ส่วนมากคนใกล้ตัวยังไม่รู้ว่าทำอะไรมา ยกเว้นบางท่านถ้ามีอาการช้ำก็อาจจะสังเกตได้บ้าง

10. ใช้เวลาดูดนานเท่าไร?
คำตอบ : ขั้นตอนการดูดใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่งค่ะ

11. ดูดไขมันเหนียง มีแผลตรงไหน
คำตอบ : มีแผลใต้คาง เป็นแผลเล็ก ๆ มากค่ะ

12. เลือกดูดไขมันแล้ว เหนียงจะหายถาวรจริงไหม?
คำตอบ : หลังทำ ผลจะอยู่ค่อนข้างถาวร ยกเว้นว่าอ้วนขึ้นมาก ๆ จนไขมันไปสะสมที่อื่นจะเต็มแล้ว จึงจะกลับมาที่เหนียงใหม่ค่ะ

13. ต้องดมยาสลบหรือไม่
คำตอบ : ไม่จำเป็นครับ สามารถฉีดยาชาทำได้ ทำเสร็จกลับบ้านได้เลย (ช่วยลดความเสี่ยงจากการดมยาสลบ)

14. เจ็บหรือเปล่า
คำตอบ : ความเจ็บ อยู่ที่ประมาณ 3 เต็ม 10 เจ็บช่วงฉีดยาชา ข้างละ ประมาณ 5 นาทีเท่านั้น

15. ทำแล้วเล็กเลยหรือเปล่า
คำตอบ : หลังทำจะเห็นผลทันที แต่จะเห็นผลดีที่สุดหลังยุบบวมแล้ว คือ 3-6 เดือนหลังทำ

16. อยู่ได้นานแค่ไหน
คำตอบ : ค่อนข้างถาวร ถ้าอ้วนขึ้นไขมันจะไปบริเวณอื่นก่อน มาแขนที่ดูดทีหลัง

17. ต้องพักฟื้นนานแค่ไหน
คำตอบ : หลังทำสามารถใช้งานปกติได้เลย แต่จะมีน้ำซึมจากแผล และระบมในช่วง 3 วันแรก  ต้องใส่ชุดกระชับตลอดในช่วง 1 เดือนแรก

18. ทำแล้วผิวจะเป็นคลื่นไหม
คำตอบ : ถ้าอายุน้อย ผิวหนังเต่งตึงดี และไม่ดูดมากจนเกินไป โอกาศเป็นคลื่นน้อยมากครับ

19. ทำไมคิวมีน้อย
คำตอบ : ที่อิสสวีร์ เรารับเพียงวันละ 1 ท่านเท่านั้น เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพมากที่สุดครับ

20. ดูดไขมัน ราคา และค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
คำตอบ : สำหรับการดูดไขมัน ที่อิสสวีร์คลินิก จะประเมินค่าใช้จ่ายเริ่มต้น ตามตำแหน่งที่ทำการดูดเป็นหลักก่อน โดยจะมีราคาเริ่มต้น ดังนี้

1. ต้นแขน : ราคาเหมารอบแขน 39,900 บาท กรณีเพิ่มดูดบริเวณนมน้อยและปีกหลัง จะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
2. เหนียง : ราคาเหมาเหนียง 29,900 บาท  กรณีเพิ่มการดูดบริเวณกรอบหน้า ตัดกระพุ้งแก้ม เย็บกล้ามเนื้อคอ (แผลเล็ก) ดึงคอ ดึงหน้าส่วนล่าง จะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
3. หน้าท้อง : ราคาเหมาหน้าท้องบนล่าง 39,900 บาท กรณีเพิ่มเอวหน้า เอวหลัง เซ็กซี่ไลน์ จะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
4. ต้นขา : ราคาเหมาต้นขาด้านในหรือด้านนอก 39,900 บาท กรณีเพิ่มสะโพก จะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม

 

** ในกรณีหากเคยดูดไขมันมาก่อน จะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม

เจาะลึกดูดไขมัน แขน ขา ท้อง เหนียง