ดูดไขมันหน้าท้อง
Before & After Gallery
การดูดไขมันหน้าท้อง (Abdominal Liposuction) คือการลดไขมันส่วนเกินบริเวณหน้าท้อง และเป็นการปรับแต่งรูปทรงหน้าท้องให้มีความสวยงาม มีส่วนเว้า ส่วนโค้ง ให้น่าดึงดูดยิ่งขึ้น
โดยตำแหน่งการดูดจะแบ่งเป็น 4 ส่วนคือ ด้านบนเหนือสะดือ ด้านล่างใต้สะดือ เอวด้านหน้า และเอวด้านหลัง ซึ่งการดูดไขมันหน้าท้อง ถือว่าเป็นบริเวณที่นิยมมาก และเป็นจุดสำคัญมาก ๆ ของร่างกาย
ปัจจุบันมีการรักษาที่นิยม 2 อย่างคู่กันคือ การดูดไขมัน และ การผ่าตัดเย็บผนังหน้าท้อง (Abdominoplasty) ซึ่งการผ่าตัดนั้นจะเหมาะกับผู้ที่มีปัญหาเรื่องผิวหนังหย่อนร่วมด้วย
การดูดไขมันหน้าท้อง เป็นตำแหน่งที่ต้องใช้ความชำนาญของแพทย์ที่ทำการดูดค่อนข้างมาก
เพราะเป็นบริเวณที่แตกต่างจากตำแหน่งอื่นของร่ายการ ไม่มีกระดูกช่วยรองรับโครงสร้างและเป็นบริเวณที่ไม่อยู่นิ่ง ขยายตัวได้มากกว่าบริเวณอื่น
ไม่ว่าจะจากการกิน การตั้งครรภ์ ซึ่งที่อิสสวีร์เรามีทีมแพทย์ที่มีประสบการณ์ การดูดไขมันมากกว่า 5000 เคส และเรามีความใส่ใจทุกท่านอย่างเต็มที่ ผ่าตัดด้วยเทคนิคเฉพาะของอิสสสวีร์ เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
การดูดไขมันหน้าท้อง ต้องมีการตรวจอย่างละเอียดมากกว่าตำแหน่งอื่น ๆ เพราะมีปัจจัยหลายอย่างที่ส่งผลต่อการรักษา โดยที่อิสสวีร์คลินิก แพทย์ของเราจะมีการประเมินทั้งหมด 4 ส่วนของหน้าท้อง ได้แก่
1. ผิวหนังหน้าท้อง ต้องดูว่ามีความเต่งตึง หรือหย่อนคล้อยแค่ไหน มีรอยแตกลายหรือไม่ หากเคยผ่านการตั้งครรภ์มาก่อน ผิวหนังเสียความยืดหยุ่น
อาจจะต้องพิจารณาการผ่าตัดดึงหนังร่วมด้วย แต่ส่วนใหญ่แล้วจะสามารถรักษาด้วยการดูดไขมันเพียงอย่างเดียวได้
2. ชั้นไขมันใต้ผิวหนัง เป็นชั้นที่เราต้องการรักษาเป็นหลัก ในชั้นนี้จะเป็นไขมันที่มือเราสามารถบีบขึ้นมาได้ชัดเจน ในท่านที่ไขมันส่วนนี้เยอะ จะเห็นรอยแบ่งไขมันบริเวณช่วงสะดือ
ทำให้เกิดเป็นไขมันหน้าท้องส่วนบน และหน้าท้องส่วนล่างแยกกัน ส่วนมากแล้วในผู้หญิงมักจะมีการสะสมไขมันช่วงใต้สะดือมากกว่าเหนือสะดือ
3. ชั้นกล้ามเนื้อ ต้องดูว่ากล้ามเนื้อหน้าท้องมีปัญหาหรือไม่ โดยเฉพาะในผู้ที่เคยตั้งครรภ์ อาจมีภาวะกล้ามเนื้อหน้าท้องหย่อน หรือกล้ามเนื้อแยกตัว อาจทำให้การรักษาไม่เป็นผลดี
หรือในบางท่านอาจมีโรคบางอย่างที่ทำให้หน้าท้องป่องออกมาจากการที่กล้ามเนื้อหน้าท้องไม่แข็งแรง
4. ไขมันในช่องท้อง เป็นไขมันที่อยู่รอบ ๆ ลำไส้ เป็นไขมันที่อยู่ลึกลงไปในอวัยวะภายใน ซึ่งถ้ามีมาก ก็สามารถดันให้ท้องป่องออกมาได้มาก จะพบปัญหานี้ในผู้ชายส่วนมากที่ท้องป่อง
แต่ตรวจแล้วไขมันไม่ได้อยู่ชั้นด้านนอกทำให้ไม่สามารถรักษาด้วยการดูดไขมันได้ ท่านที่ไขมันส่วนนี้เยอะ ต้องใช้การลดไขมันด้วยวิธีธรรมชาติ คุมอาหาร ออกกำลังกายเป็นหลัก
แต่ละท่านมีจุดมุ่งหมายของการลดไขมันหน้าท้อง มีรูปทรง ลักษณะผิวหนัง และไขมันที่ต่างกัน ซึ่งการจะทำการดูดไขมันให้ได้ผลดีที่สุด จึงไม่ใช่แค่การดูดไขมันให้มากที่สุด หรือดูดให้หน้าท้องแบนมากที่สุด
แต่ยังต้องคำนึงถึงรูปทรงโดยรวมเมื่อเทียบกับส่วนอื่น ๆ ของร่างกาย คำนึงถึงส่วนเว้า ส่วนโค้ง ตำแหน่งที่ต้องดูดมากน้อย และการดูดให้ครบทุกมุมมอง 360 องศา
เหมือนเทคนิคของอิสสวีร์คลินิก “Tummy Sculption 360” ซึ่งจะแบ่งเป็น 4 ข้อ ได้แก่
การดูดไขมันหน้าท้อง เอว หรือช่วงสะโพก ต้องพิจารณาจากหลายปัจจัย เพราะรูปร่างแต่ละคนแตกต่างกันไป ผิวหนังแตกต่างกันไป
หมอของอิสสวีร์จึงต้องมีการวางแผนอย่างละเอียดถึงตำแหน่งที่จะดูด ตำแหน่งของพังผืด (Adhesion Zone) และตำแหน่งที่ต้องดูดมากเป็นพิเศษ (Negative Space)
เพื่อให้มีร่องตามตำแหน่งหน้าท้อง มีส่วนเว้าส่วนโค้งที่สวยงาม สำหรับบางท่านที่ไม่เหมาะกับการดูดไขมัน แพทย์ก็จะประเมินและอธิบายอย่างตรงไปตรงมา รวมถึงหาวิธีการรักษาที่เหมาะสมร่วมกัน
ตัวอย่างการออกแบบ design ดูดไขมันหน้าท้องของอิสสวีร์คลินิก
1. หน้าท้องที่ผิวเริ่มหย่อน มีการกระจายไขมันไม่สม่ำเสมอ ต้องวางแผนการดูดอย่างละเอียด จากรูปจะเห็นว่าไขมันใต้ผิวหนังแบ่งเป็นด้านบนและด้านล่างชัดเจน
โซนด้านบนมีพังผืดเหนือสะดือที่เกิดจากรอยพับหน้าท้อง และมีลักษณะไขมันสะสมของเอวด้านหน้า เชื่อมไปถึงด้านหลัง จึงต้องแบ่งตำแหน่งที่เน้นการดูดมาก (สีน้ำเงิน) และบริเวณที่ต้องเกลี่ย (สีม่วง) และตำแหน่งที่ต้องเว้นการดูด (สีแดง)
2. หน้าท้องผิวยังเต่งตึง และมีไขมันกระจายทั่ว ๆ ลักษณะแบบนี้จะพบในผู้ที่น้ำหนักตัวมากด้วย การดูดจะต้องเน้นทั้งท้องบนล่าง และเอว ในปริมาณที่ใกล้เคียงกัน
และต้องประเมินร่วมด้วยว่ามีไขมันในช่องท้องปริมาณมากด้วยหรือไม่ เพราะสังเกตได้ว่า หน้าท้องมีลักษณะตึงออกมาทั้งบนล่าง ไม่มีร่องแบ่งกลางท้อง ส่วนอาจจะป่องเพราะไขมันในช่องท้องร่วมด้วย
3. หน้าท้องผิวเต่งตึง น้ำหนักตัวไม่มาก มีสัดส่วนที่ดีอยู่แล้ว เมื่อมองด้านข้างจะเห็นส่วนเกินของท้องบนล่างชัดเจน บริเวณเอวก็มีส่วนเว้าที่ดีอยู่แล้ว เพียงดูดเพิ่มเพื่อให้คอดสวยงามขึ้น
และเก็บส่วนเกินที่เห็นได้ชัดเจนทั้งด้านบนและด้านล่าง รวมไปถึงถ้ามองจากด้านข้างจะเห็นว่าบริเวณสะโพกก็มีส่วนเกิน การดูดในตำแหน่งนี้ด้วยก็จะทำให้รูปร่างสวยงามยิ่งขึ้น
การดูดไขมันหน้าท้อง จะต้องคำนึงความแตกต่างของแต่ละท่าน ที่อิสสวีร์ จึงต้องมีการประเมิน และวางแผนการดูดอย่างละเอียดก่อนทุกเคส
เรียกว่าเป็นการ design case by case ซึ่งลักษณะการดูด และผลลัพธ์ที่ได้ จะแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล ทุกท่านจึงควรได้รับการตรวจจากแพทย์ก่อนที่จะตัดสินใจเข้ารับการรักษา
ตำแหน่งหน้าท้องด้านบน จะมีรูปแบบไขมันที่เป็นลักษณะแข็งกว่าบริเวณอื่น ถ้าทดลองหยิกเนื้อบริเวณนี้ของตนเองจะพบว่าเป็นเนื้อแข็ง ๆ ดึงยากกว่าบริเวณหน้าท้องด้านล่าง ที่อิสสวีร์ เราจึงดูดบริเวณนี้ในชั้นที่ลึกกว่า เพื่อให้ได้ผิวที่เรียบเนียนที่สุด
ตำแหน่งหน้าท้องด้านล่าง เป็นตำแหน่งที่มักมีการสะสมไขมันมากที่สุด แต่ก็เป็นเรื่องดีที่บริเวณนี้ ไขมันมีความนิ่ม ดูดออกง่าย ได้ผลลัพธ์ที่ดี สามารถดูดให้บางลงได้ถึง 80%
ตำแหน่งเอวด้านหน้า ที่อิสสวีร์ เราแบ่งเอวเป็นด้านหน้าและด้านหลัง โดยเอวด้านหน้าจะสามารถดูดได้พร้อมกับบริเวณหน้าท้อง ไม่ต้องลงแผลเพิ่ม และเป็นตำแหน่งที่ทำแล้วได้ผลลัพธ์ที่ เอวคอด หรือที่เรียกว่า เอวเอส
ส่วนตำแหน่งเอวด้านหลัง จะมีไขมันที่แข็งและแน่นกว่า จะพบเยอะในท่านที่ไขมันมาก ซึ่งการดูดบริเวณนี้จะช่วยให้เอวสวยงามยิ่งขึ้น สำหรับท่านที่ต้องการให้เอวคอดสวยที่สุดจึงต้องดูดบริเวณนี้ร่วมด้วย
เครื่องมือที่ใช้ในการสลายไขมันในปัจจุบันประกอบด้วยหลายชนิด ซึ่งจะแตกต่างไปตามลักษณะพลังงานที่ใช้ในการสลายเซลล์ไขมัน ได้แก่ คลื่นอัลตร้าซาวน์ คลื่นวิทยุ RF คลื่นพลังน้ำ เป็นต้น
โดยแต่ละเครื่องมือต่างมีข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกันไป บางเครื่องอาจมีการกระชับได้ในตัวแต่ก็อาจจะมีการสลายที่ไม่ดี หรือบางเครื่องอาจมีการสลายที่อ่อนโยนกว่าแต่ก็ไม่สามารถสลายไขมันได้หมด
ซึ่งจากประสบการณ์ของหมอมากกว่า 10 ปีที่อิสสวีร์คลินิก ได้ทำการทดลองวิจัยทุกเครื่องและพบว่า
เครื่อง ultra-Z ซึ่งเป็นเทคโนโลยี vaser ultrasound assisted เป็นเครื่องที่สลายไขมันได้ดีที่สุด ได้ปริมาณมาก โดยไม่ทําให้ผิวหนังเกิดอาการบาดเจ็บ
และเกิดผลข้างเคียงน้อยที่สุด และสามารถช่วยให้การผ่าตัดของแพทย์ประสบความสำเร็จ เราจึงเลือกใช้เครื่องนี้เป็นเครื่องมือหลักในการสลายไขมัน
อย่างไรก็ตาม เครื่องมือในการสลายไขมันมีผลเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น เป็นเพียงเครื่องมือช่วยผ่าตัดเท่านั้น ผลลัพธ์จริง ๆ ของการการดูดไขมัน ขึ้นกับการผ่าตัดของแพทย์ ประสบการณ์แพทย์ และลักษณะไขมันและรูปร่างของคนไข้เป็นหลัก
สำหรับกระบวนการทำงานของเครื่อง Ultra-Z ควบคู่กับการดูดไขมัน จะประกอบด้วย 3 ขั้นตอน ได้แก่
1. ขั้นตอนการใส่ยาชา เป็นการใส่ยาชาที่ผสมน้ำเกลือและสารต่าง ๆ เข้าไปในตำแหน่งที่ทำการรักษา
2. ขั้นตอนการสลายไขมัน โดยเครื่อง Ultra-Z จะปล่อยคลื่น ultrasound เข้าไปสลายไขมันให้หลุดออกจากกัน สลายออกมาในน้ำยาชา และง่ายต่อการดูดยิ่งขึ้น โดยไม่ทำอันตรายต่อเนื้อเยื่ออื่น ๆ รวมถึงเส้นเลือด และเส้นประสาท
3. ขั้นตอนการดูดไขมัน จะเป็นการใช้เทคนิคของแพทย์เป็นหลัก ในการดูดไขมันที่สลายแล้วออกมา และบริเวณหน้าท้องจะมีการดูดมากน้อยในแต่ละตำแหน่งแตกต่างกันไป
ตัวอย่างการสลายไขมันด้วย ultra-Z สังเกตุได้ว่า ผนังหน้าท้องมีความบางลดลงมากได้ถึง 70% (จากภาพเป็นการถ่ายหลังการดูดไขมันทันที ยังมีอาการบวมอยู่
ซึ่งถ้าผ่านไป 3 เดือน ยังสามารถบางได้มากกว่านี้) ดังที่กล่าวข้างต้นว่า เครื่องมือในการสลายเป็นเพียงตัวช่วยการผ่าตัดเท่านั้น สิ่งสำคัญคือการวางแผนการดูด เทคนิคในการดูดและตกแต่งรูปร่าง ที่จะทำให้ผลลัพธ์ออกมาสวยงามดั่งที่ต้องการ
การดูดไขมันหน้าท้อง เป็นตำแหน่งที่ต้องอาศัยความละเอียดในการดูด เพราะหน้าท้องทั้งแผ่น ต้องมีความเรียบเนียนสม่ำเสมอเท่า ๆ กันทั้งหมดภายหลังการดูด
แต่อาจมีร่องได้บ้างตามตำแหน่ง เพื่อขับส่วนเว้าส่วนโค้ง หรือให้มีความ sexy มากยิ่งขึ้น
ที่อิสสวีร์คลินิก เรามีเทคนิคเฉพาะที่จะทำให้ผลลัพธ์การดูดเรียบเนียนมากที่สุด ทั้งการวางแผนให้ชัดเจนว่าตำแหน่งใดที่เป็น adhesion zone ซึ่งต้องดูดในปริมาณไม่มาก
ตำแหน่งใดที่ต้องเน้นการดูดเป็นพิเศษ และที่สำคัญคือการไม่ดูดไขมันออกมากจนเกินไป ต้องเหลือไขมันติดผิวไว้บ้าง เพราะไขมันติดผิวจะทำให้ผิวหนังดูเรียบเนียน
มีคุณภาพไม่หย่อนคล้อยเกินไป และการดูดไขมันติดผิวมากเกินไปจะทำให้ผิวไม่เรียบเป็นคลื่นได้
และเพื่อความเรียบเนียนมากที่สุด แพทย์ของเรามีหลักการว่า จะเน้นการดูดเพื่อให้ได้รูปทรงที่สวยงามเป็นหลัก ส่วนปริมาณไขมันที่ดูดออกไม่ใช่สิ่งสำคัญเท่ากับรูปร่างโดยรวมทั้งหมด
การดูดจะต้องมีการนำไขมันออกในปริมาณที่พอดี และต้องมีการเกลี่ยไขมันระหว่างรอยต่อบริเวณที่ดูด และบริเวณที่ไม่ได้ดูด เพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาดีที่สุด
จากภาพเป็นตัวอย่างหลังการดูดไขมันหน้าท้อง ดูดไขมันเอวด้านหน้า และดูดไขมันเอวด้านหลัง โดยในคนไข้ท่านนี้ ต้องการหน้าท้องที่เน้นความแบนราบ ไม่เน้นร่องกล้ามเนื้อ
หมอจึงใช้การดูดเน้นให้เกิดส่วนเว้าบริเวณเอวมากขึ้น ดูดไขมันหน้าท้องด้านบนและด่านล่าง ให้แบนราบลง และลดไขมันหน้าท้องด้านบนให้มากกว่าด้านล่าง เก็บเอวด้านหน้าและด้านหลังให้เป็นเอว S และเน้นการดูดให้ผิวเรียบเนียนเป็นธรรมชาติ