รีวิว ดูดไขมันต้นแขน โดยคุณแนน
สวัสดีค่ะ แนนนะคะ
แนนตัดสินใจมารับบริการดูดไขมันกับอิสสวีร์คลินิค เมื่อประมาณ 6 เดือนที่แล้ว โดยที่ตัดสินใจมารับการรักษาเพราะว่า แฟนขอแต่งงานค่ะ!!
ก็ดีใจมากนะคะ ผู้หญิงอะนะคะ พอแฟนมาขอแต่งงานก็ต้องดีใจมาก แต่ในใจก็มีความกังวลอยู่ค่ะ ปัญหาหลัก ๆ ก็คือ จะถ่ายรูปยังไง จะใส่ชุดแต่งงานยังไงให้สวย เพราะว่าเรามีปัญหาต้นแขน และต้นขาใหญ่มาตั้งแต่เด็ก T-T
สำหรับต้นขาแนนขอตัดปัญหานี้ไปก่อน เพราะว่าชุดแต่งงานมันยาวปิดขาได้อยู่แล้ว แต่ต้นแขนล่ะ มันปิดไม่ได้นะสิ .....
ตอนแรกก็คิดว่าจะทำดี หรือไม่ทำดี ตัดสินใจอยู่นานมาก เพราะว่าขั้นตอนมันแตกต่างจากการลดไขมันวิธีอื่น เช่นการนวด การฉีด meso หรือ Carboxy แต่หลังจากได้ปรึกษาคุณหมอผู้เชี่ยวชาญด้านการดูดไขมัน Vaser ของอิสสวีร์คลินิค ก็มั่นใจมากขึ้นค่ะ เพราะวิธีนี้ในปัจจุบัน มีความทันสมัย ปลอดภัย และได้ผลลัพธ์ที่ดีมาก การดูแลหลังทำก็ไม่ลำบากนัก แนนจึงตัดสินใจเข้ารับการรักษาค่ะ
ซึ่งก่อนเข้ารับการรักษา ทางคลินิคจะนัดมาพบคุณหมอที่ทำการผ่าตัดก่อน เพื่อประเมินเรื่องไขมันบริเวณที่จะดูดก่อน ซึ่งคุณหมอก็บอกว่า แขนแนนมีไขมันมากอยู่ (นั่นไง!!) มีผิวหนังที่ยังยืดหยุ่นดี เหมาะกับการทำ vaser ค่ะ ซึ่งผลลัพธ์หลังทำน่าจะออกมาดี แล้วคุณหมอก็ให้รายละเอียดขั้นตอนการทำ การเตรียมตัวก่อนทำ และรวมถึงการดูแลหลังทำด้วยค่ะ
วันที่เข้ารับการดูดไขมัน ก่อนทำคุณหมอก็มาตรวจร่างกาย วัดความดัน แล้วก็เอาปากกาวาด ๆ บริเวณที่จะดูดไขมันไว้ก่อน พอเริ่มทำก็ใช้เวลาไม่นานค่ะ ประมาณ 2 ชั่วโมง ก็ทำเสร็จแล้ว ตอนแรกทำใจมาว่าน่าจะเจ็บมาก แต่เอาเข้าจริง เจ็บน้อยมากค่ะ เจ็บเฉพาะตอนฉีดยาชา ประมาณ 5-10 นาที แค่นั้นเอง (แต่ก็น้อยกว่า ฉีด meso หรือทำ carboxy นะคะ) ซึ่งคุณหมอก็ชวนคุย และบอกความรู้สึกทุกขั้นตอนเวลาทำอยู่แล้ว ทำให้ไม่น่ากลัวเลยค่ะ ทำแปปเดียว รู้ตัวอีกทีก็เสร็จแล้ว เห็นไขมันทีนี่ตกใจเลยค่ะ 555
หลังจากการผ่าตัด จะมีแผลเล็ก ๆ บริเวณรักแร้ ขนาดประมาณ ครึ่ง ซม. ค่ะ (ของแนนลงแผลบริเวณรักแร้ เพื่อซ่อนแผลค่ะ แต่คุณหมอบอกว่า ปกติจะลงแผลตรงข้อศอก) แผลตรงนี้จะมีน้ำเกลือซึมออกมาเยอะหน่อย (ตกใจนิดนึง) หมอบอกเป็นน้ำเกลือผสมยาชาที่ใส่เข้าไปตอนทำ ซึ่งจะไหลออกมาประมาณวันนึงค่ะ ระหว่างนี้แนนก็ต้องดูแลแผลให้ดี ไม่ให้โดนน้ำ ทำแผลทุกวัน แล้วก็รัดแขนที่ทำด้วยผ้ายืดที่ทางคลินิคให้มาค่ะ
ช่วงสัปดาห์แรกจะเป็นช่วงที่ต้องดูแลมากนิดนึงค่ะ เพราะจะมีอาการบวม ช้ำ อยู่ซึ่งในช่วง 48 ชั่วโมงแรก แนนก็จะประคบเย็น แล้วหลังจากนั้นจึงประคบอุ่น ตามคำแนะนำคุณหมอค่ะ ตอนหลังทำเสร็จทันที แขนดูเล็กลงเลยนะคะ แต่ก็ยังดูบวมๆ อยู่ แบบว่าก็เล็กลงน้อยกว่าที่คิด แต่คุณหมอบอกว่าเป็นเรื่องธรรมดา เพราะว่าตอนนี้จะยังบวมน้ำเกลืออยู่ ให้รัดผ้ากระชับต้นแขนไว้ก่อน แล้วพอยุบบวมลงแขนก็จะค่อย ๆ เล็กลงค่ะ ช่วงนี้ต้องทนปวด ๆ ล้า ๆ นิดนึงตอนยกแขน ก็ปวดนะคะ แต่ไม่ถึงกับมาก กินพารา ก็พอบรรเทาละ ความรู้สึกเหมือนแขนล้า ๆ มากกว่าค่ะ ทานยาที่คุณหมอให้มา อาการต่าง ๆ ก็ค่อย ๆ ดีขึ้นแล้ว (จริงๆ ยาหลัก ๆ ก็มีแค่ยาฆ่าเชื้อ กับยาลดบวมแค่นั้นเอง)
พอครบหนึ่งอาทิตย์ คุณหมอก็นัดมาตัดไหม (ไหมที่เย็บไม่ใช่ไหมละลาย หมอบอกว่าต้องเย็บให้หลวม ๆ เพื่อระบายน้ำเกลือ เลยใช้ไหมละลายไม่ได้) ไม่เจ็บเลยค่ะ หมอบอกว่าแผลติดดี วันรุ่งขึ้นก็โดนน้ำได้แล้ว
คุณหมอถ่ายรูปตอนครบหนึ่งอาทิตย์ ก็เห็นชัดแล้วค่ะ ว่าแขนเล็กลงเยอะเลย ดีใจมากกกกก ^^ (แต่ยังช้ำอยู่ แถมรัดจนเป็นรอยสำลีนิดนึง)
หลังจากทำ 2 เดือน ผลลัพธ์ที่ได้ดูดีมากค่ะ แขนเล็กลงมาก ยิ่งถ้ามองด้านข้างนี่เล็กลงมาก ๆ ตอนนี้ถ่ายรูปก็ไม่ต้องกังวลว่าแขนจะใหญ่เลย ไม่ว่าจะถ่ายรูปหรือวิดีโอ ก็ไม่มีปัญหากังวลใจอีกเลยค่ะ
หลังจากผ่านไป 6 เดือน แขนแนนตอนนี้ปกติ 100% แล้วค่ะ รอยแผลเป็นก็จางลงมากจนแทบไม่เห็นแล้ว แถมแขนที่ว่าเล็กแล้ว ตอนนี้เหมือนผิวหนังมีความกระชับมากขึ้น เล็กลงกว่าเดิมอีก (แนนใส่ที่รัดแขนไว้ตลอดเลย ตามคำแนะนำคุณหมอ) พอถึงวันแต่งงาน วันพิเศษที่สุดสำหรับแนน แนนก็ไม่ต้องกังวลเลย ไม่ว่าจะถ่ายภาพนิ่งหรือวิดีโอ ก็ออกมาสวยอย่างที่ต้องการ ไม่ผิดหวังจริง ๆ ค่ะ ที่ดูดไขมันกับ อิสสวีร์คลินิคค่ะ (ใครอยากดูรูปวันแต่งงาน กดดูในคลิปได้เลยค่า ^^)
อย่างไรก็ตาม การทำศัลยกรรมไม่ว่าอะไรก็ตาม ต่างก็มีความเสี่ยงอยู่ สิ่งสำคัญคือ เราจะต้องมีความรู้ความเข้าใจในสิ่งที่จะทำก่อนนะคะ อย่าหลงเชื่อเพียงโฆษณาชวนเชื่อ โดยไม่หาข้อมูลให้ชัดเจนก่อน เพราะถ้าเราทำแล้วมีปัญหาขึ้นมา จะกลายเป็นความเสียใจไปตลอดก็ได้นะคะ ดังนั้น จะสวย ก็ต้องมีสตินะคะ
